เข้าชมรายละเอียด THE INDIAN TEA

เข้าชมรายละเอียด THE INDIAN TEA
แฟรนไชส์กาแฟสดและกาแฟชงสำเร็จ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย ราคาเริ่มต้น 6,900 - 399,000 เข้าชมรายละเอียด แฟรนไชส์ THE INDIAN TEA คลิ๊กที่รูปภาพด้านบน ติดต่อคุณมาโนช โทร.084-682-5999 , 092-369-3951 LINE ID : @THEINDIANTEA / หรือเซฟเบอร์ 084-682-5999

ค้นหาทำเลเปิดร้านกาแฟ แสดงผลการค้นหาชัดเจน ตรงประเด็น จากกลุ่มเว็บที่เรานิยมใช้เป็นประจำ

Loading

วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ดื่มชาเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น นับว่าเป็นสมุนไพรชั้นเยี่ยม


ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็หันมาดื่มชาเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น  ด้วยสาเหตุหลายประการ  ซึ่งนับว่าเป็นสมุนไพรชั้นเยี่ยมชนิดหนึ่งของคนไทย  โดยเฉพาะคนจีน  และ ส่วนใหญ่จะนึกถึงประโยชน์สารพัดของการดื่มชาประเภทนี้  ขณะที่หลาย ๆ คนยังไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับใบชามาดื่ม  ดังนั้น ก่อนดื่มชาหรือหาใบชามาชงดื่มที่บ้าน ควรพิจารณาด้วยว่า สรรพคุณ  สารที่อยู่ในใบชา  ประโยชน์และสิ่งที่สำคัญโทษและข้อควรระวังในการดื่มชา  เพื่อการดื่มชาของคุณจะได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย      
 มาดื่มชา.....เพื่อสุขภาพกันเถอะ
                                                                                                    เรียบเรียง    ธนัท   มะโนคำ                                                                                                                                                                  
     
ชา    เป็นเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกนิยมบริโภค  ชาถือกำเนิดมาจากพืชตระกูล  Camellia  มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า   Can   ลักษณะเป็นไม้พุ่ม  ใบแหลมสีเขียว  ดอกสีขาวมีกลิ่นหอม  ส่วนที่นำมาเป็นเครื่องดื่มของการผลิตใบอ่อน  และการแตกหน่อ  ซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณภาพดีที่สุด  แต่ถึงจะมากยังมีหลากหลาย  แบ่งได้  4  ประเภท  แตกต่างกันไปตามกรรมวิธีการหมักบ่มหรือการผลิต
         1. ชาขาว  คือชาที่ได้จากการเลือกเก็บชาที่อ่อนมาก  คือยังมีขนเล็ก ๆ
สีขาวปกคลุมคงสภาพเหมือนใบชาสดเขียวและมาสีขาว  น้ำที่ชงจากชาขาวจะมีสีใส ๆ  ถึงสีเหลืองอ่อนเกมเขียว  แต่ในแต่ละปีจะเก็บเกี่ยวยอดชาเพื่อนำมาผลิตชาขาวได้ในบางวันเท่านั้น
           2. ชาเขียว  คือชาที่ไม่ผ่านกระบวนการหมัก  ในระยะเวลาสั้น  การผลิตชาเขียวทำโดยการผ่านไอน้ำหรือความร้อน  เพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ทันที  จากนั้นนำไปกลิ้งตากแห้งอย่างรวดเร็ว  ใบชาที่ได้จึงยังคงมีสีเขียว  ใบชาเขียวจะมีสารต้านอนุมูลอิสสระ  ซึ่งจะมีผิวด่างดำ  และแห้งกร้าน
            3. ชาอูหลง คือ ชาที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยการหมักแต่เพียง  10 – 80  เปอร์เซ็นต์ คือระยะเวลาการหมักจะนานกว่าชาเขียว  ชาประเภทนี้จะมีสีและกลิ่นมากว่าชาเขียวขึ้นมาหน่อยรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอมเมื่อดื่มจะทำให้รสฝาดและขมเล็กน้อย ชุ่มคอ แต่สามารถช่วยลดความอ้วนและอาการท้องผูก  โดยจะช่วยละลายไขมันและช่วยในการย่อยอาหารและลดประจุในปัสสาวะ
            4. ชาอังกฤษ  นิยมใช้ชาพันธุ์ดีมีสารโพลิทีนอลสูงซึ่งดีต่อสุขภาพ  โดยเริ่มจากการนำใบชาไปหมักด้วยระยะเวลานานก่อให้เกิดการหมักอย่างเต็มที่ซึ่งจะทำให้สีและรสชาติเข้มข้นมาก น้ำชาจะมีสีส้มและสีน้ำตาลแดง  นอกจากรสชาติที่เข้มข้นและมีกลิ่นหอมชื่นใจแล้ว ชาอังกฤษยังกระตุ้นการทำงานของหัวใจ  ขับไล่ความเหนื่อยอ่อน  สร้างความสดชื่น  ป้องกันมะเร็ง  ที่สำคัญช่วยชะลอความแก่  การต้มหรือแช่ชาอังกฤษนาน ๆ จะทำให้ได้สารแทนนินและแร่ธาตุอื่น ๆ มากมาย            
  การดื่มชาเป็นประจำทุกวัน ให้ประโยชน์กับร่างกายอย่างไรบ้าง  แต่ขอแอบกระซิบไว้ก่อนว่า ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย
1. ประโยชน์ประการแรกของการดื่มชาคือ เราจะได้รับสารคาแฟอีนจากใบชา  ซึ่งสารคาแฟอีนนี้จะออกทฤธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง  กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต  ขยายหลอดเลือด  ช่วยทำให้กล้ามเนื้อผอนคลาย  ป้องกันโรคหัวใจตีบตัน  บรรเทาอาการเจ็บหน้าอก  รักษาหวัดและอากการปวดหัวใจ
2. นอกจากสารคาแฟอีนแล้ว  ในใบชายังมีสารโพลิฟีนอล  (  Polyphenol  )  คาร์โบไฮเดรท  และกรดอะมีโน  เมื่อสารเหล่านี้ทำปฎิกิริยากับน้ำลาย  ก็จะช่วยกระจายความร้อนในร่างกายออกไปพร้อม ๆ กับขับสารพิษในร่างกายออกไปด้วย  ส่วนสารอะโรมาติคก็จะช่วยระงับกลิ่นปากและป้องกันฟันผุด้วย
3. ช่วยฆ่าเชื้อโรค  ลดอาการอักเสบ  และช่วยสมานแผล  ตามตำรายาจีนยังบันทึกไว้ว่า  น้ำชาชงแก่ ๆ  1  ถ้อย  ช่วยรักษาโรคบิดได้เป็นอย่างดี
4. ในใบชามีวิตามินซี  วิตามินบีคอมเพล็ก  กรดเพนโทเทนิค   ช่วยให้หลอดเลือดมีความยึดยุน  ไม่เปราะ  ไม่แข็งตัวง่าย  นอกจากนั้นก็ยังมีกรด  Pantothenic  ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื่น  ลดต่อต้านอาการอักเสบ  และอาการของโรคปอดบวม  ที่สำคัญการดื่มชาเขียวเป็นประจำ  สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง  โดยเฉพาะโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร
5. ชาฝรั่งจะมีวิตามินเคอยู่มาก
6. ชาอูหลง สามารถช่วยลดความอ้วนและอาการท้องผูก  โดยจะช่วยละลายไขมันและช่วยในการย่อยอาหารและลดประจุในปัสสาวะ
                      ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็หันมาดื่มชา  ด้วยสาเหตุหลายประการ   ส่วนใหญ่จะนึกถึงประโยชน์สารพัดของการดื่มชาประเภทนี้  ขณะที่หลาย ๆ คนยังไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับใบชามาดื่ม  ดังนั้น ก่อนดื่มชาหรือหาใบชามาชงดื่มที่บ้าน  สรรพคุณ  สารที่อยู่ในใบชา  ประโยชน์และสิ่งที่สำคัญโทษและข้อควรระวังในการดื่มชาเพื่อการดื่มชาของคุณจะได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย
  ชาเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของคนรักสุขภาพในเมืองไทยในระยะ  3 – 4  ปีมานี้เอง  ดูแล้วยังไม่มีใครแซง  “  เครื่องดื่มชา  “     ทั้งชาเขียว  ชาดำ  ชาแดง  ชาขาว  และชานานาชนิด  และยังมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบใบชาแห้งชงน้ำแบบดั้งเดิม  ชาผงอินสแตนต์  ชาขวดพร้อมดื่ม  ชาบรรจุกล่องเหมือนนม   UHT   รู้หรือไม่ว่าธุรกิจชาพร้อมดื่มมูลค่าปีละหมื่นล้านบาท   เหตุที่ยิ่งขายยิ่งมีคนหันมาดื่มชากันมากขึ้นเพราะกระแสสรรพคุณของใบชานี่เองทั้ง ๆ ที่มีข้อมูลเรื่องประโยชน์จากชามานานกว่า 100 ปี มาแล้ว แต่ไม่เร้าใจเท่าระยะ 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อผลการศึกษาพบว่า  ชามีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นหรือต้านอนุมูลอิสระ  ต้านมะเร็งหรือลดการเสี่ยงของมะเร็ง  ยังมีสรรพคุณที่คนสมัยนี้ชอบมากคือ  ลดไขมันและน้ำตาลในเลือด  ยังลดการอักเสบ  ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในช่องปากช่วยให้ปากสะอาดไร้กลิ่น
            สรรพคุณโดนใจขนาดนี้จึงเป็นที่หมายปองของคนประเภทกินไม่ยั้ง กินไม่เหมาะสม  และยังไม่ชอบออกกำลังกาย  กลุ่มคนนี้มักจะหาอะไรก็ได้กินดื่มหลังอาหารรวดเดียวเพื่อจะได้เป็นยาแก้ได้สารพัดนึก  จึงทำให้เครื่องดื่มชาเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วนั่นเอง  และเพราะการดื่มชาไม่ใช่เป็นสิ่งที่แปลกปลอมในวัฒนธรรมของชาวเอเชีย  คนไทยจึงรับการดื่มชาได้ง่าย          
        ในใบชามีสารประกอบหลายชนิด  แต่ที่พูดถึงกันมากคือ  สารกลุ่มโพลีฟีนอล    เพื่อบำรุงสุขภาพแต่ควรให้รู้ไว้ด้วยว่า   ชาแช่เย็นบรรจุขวดหรือกล่องที่ขายดีและแพงนั้น  ไม่เหลือสรรพคุณทางยาแต่อย่างโด  มีแต่รส  กลิ่น  กาแฟอีน  สารแทนนิน  และน้ำตาลธรรมดา ๆ เท่านั้น
                 แต่ไม่ควรลืมด้วยว่า  ใบชานอกจากมีสารออกทฤธิ์เพื่อสุขภาพแล้ว  ยังมีกาแฟอีน  และสารแทนนิน  (  รสฝาด  )   รวมอยุ่ด้วย  สารกาแฟอีนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้   บางคนแพ้สารชนิดนี้ดื่มไปเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ใจสั่นนอนไม่หลับ โดยทั่วไปน้ำชา  1  ถ้วย ( ประมาณ 170  ซีซี )
มีสารกาแฟอีนอยู่ประมาณ  25.5 – 34  มิลลิกรัม  ถ้าดื่มน้ำชา  10 – 12  ถ้วย  ต่อวันก็จะได้รับสารกาแฟอีนเป็นจำนวนมากด้วย
                 และข้อมูลความรุ้ที่ควรรับรู้ทั่วกันว่า  ในน้ำชาและกาแฟ  มีสารกาแฟอีน  และสารแทนนิน  วึงสารทั้ง 2  ชนิดนี้  มีผลทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบีและธาตุเหล็กลดลง   มีการศึกษาพบว่า  กาแฟทำให้มีการดูดซึมธาตุเหล็กลดลงร้อยละ  23 – 60  ส่วนน้ำชาทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กลดลง  ร้อยละ  85 – 88  สารที่ขัดขวางการดูดซึมคือสารแทนนิน  วึ่งในชามีมากกว่ากาแฟ  ในการศึกษายังพบอีกว่าการดื่มนมไม่ทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กเปลี่ยนแปลง  พูดง่าย ๆ เสมอตัว  และที่น่าสนใจพบว่าการดื่มน้ำส้มจะทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น  ดังนั้นการดื่มชาครั้งต่อไปควรบีบมะนาวใส่ตามลงไปด้วย    นอกจากนี้ควรใส่ใจว่า  สารแทนนินที่ส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินบีและธาตุเหล็กนั้น   จะเพิ่มขึ้นมากเมื่อแช่หรือทิ้งใบชาไว้ในน้ำนาน ๆ   ให้สังเกตว่าถ้าชามีรสฝาดมากก็แสดงว่า
มีสารแทนนินมาก  จึงไม่ควรแช่ถุงชาไว้นานเกินไป  แต่โชคดีที่ว่าการลดการดูดซึมธาตุเหล็กของชานั้น  มีผลเฉพาะธาตุเหล็กที่อยู่ในพืช  แต่ไม่มีผลต่อธาตุเหล็กในเนื้อสัตว์  ไข่  นม  ฯลฯ  ดังนั้น  ผู้รับประทานมังสวิรัติจึงต้องระมัดระวังในการดื่มชา  เพราะจะไปลดการได้รับธาตุเหล็กของร่างกาย  และแน่นอนว่าสตรีตั้งครรภ์  และเด็ก  ๆ   ที่กำลังเติบโตมีความต้องการวิตามินบีและธาตุเหล็กจึงไม่แนะนำให้ดื่มชาหรือกาแฟ
             และมีข้อเตือนใจสำหรับคนที่อยากได้สุขภาพดี ๆ  จากใบชา มีรายงานพบว่าคนที่มีสุขภาพดีกินอาหารที่สมดุลอยู่แล้ว  การดื่มชาไม่ส่งผลต่อสภาวะธาตุเหล็กในร่างกาย  แต่คนที่มีสุขภาพที่ย่ำแย่และมีภาวะธาตุเหล็กในร่างกายต่ำอยู่แล้ว  ไม่ควรดื่มน้ำชาหรือกาแฟ  รายงานนี้เตือนสติอีกประการว่า  คนที่หวังดื่มชาเพื่อให้มีสารต้านออกซิเดชั่น  เพื่อฟื้นฟูร่างกายมักเป็นคนที่สุขภาพไม่ค่อยดี  ดังนั้น  ขณะที่ อยากได้สารต้านอนุมูลอิสระก็จะต้องระวังการลดการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกายด้วย

        มีเคล็ดลับมาฝากไว้ว่าใครที่ยังอดใจทิ้งชาไม่ได้เพราะว่าติดสารกาแฟอีนเข้าแล้ว  และก็เสียดายสรรพคุณดี ๆ ในน้ำชา  ขอให้หลีกเลี่ยงดื่มชาหลังอาหาร  ควรดื่มหลังจากรับประทานอาหารแล้ว  2  ชั่วโมง  และใครที่ดื่มวันละ  3 – 4   ถ้วย  ก็ให้ดื่มแบบกระจาย ๆ อย่าหมารวดเดียว  คือเฉลี่ยดื่มระหว่างมื้ออาหาร  เพื่อรอให้ร่างกายย่อยและดูดซึมวิตามินบีและธาตุเหล็กเสียก่อน

         

           เอกสารอ้างอิง

- หนังสือมติชน  สุดสัปดาห์  ปีที่  30  ฉบับที่  1525
- นางสาว สุทธิภรณ์  ไม้วัฒนา    โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย
- www.school.net
- www.tlcthai.comhttp://news.siamjobit.com
         
               
         คำถามท้ายบท
     
1. กรรมวิธีการบ่มหมักหรือการผลิตชามีกี่วิธีอะไรบ้าง  จงตอบมาเป็นข้อ ๆ
2. ประโยชน์ของการดื่มชา  มีอะไรบ้าง  จงตอบมาเป็นข้อ ๆ
3. ชาถือกำเนิดมาจากพืชตระกูลใด  และมีชื่อทางพฤษศาสตร์ว่าอย่างไร

---------------------------------------

Cafe Britt - Premium Gourmet Coffee