เข้าชมรายละเอียด THE INDIAN TEA

เข้าชมรายละเอียด THE INDIAN TEA
แฟรนไชส์กาแฟสดและกาแฟชงสำเร็จ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย ราคาเริ่มต้น 6,900 - 399,000 เข้าชมรายละเอียด แฟรนไชส์ THE INDIAN TEA คลิ๊กที่รูปภาพด้านบน ติดต่อคุณมาโนช โทร.084-682-5999 , 092-369-3951 LINE ID : @THEINDIANTEA / หรือเซฟเบอร์ 084-682-5999

ค้นหาทำเลเปิดร้านกาแฟ แสดงผลการค้นหาชัดเจน ตรงประเด็น จากกลุ่มเว็บที่เรานิยมใช้เป็นประจำ

Loading

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แฟรนไชส์กาแฟสด THE INDIAN TEA เพิ่มรูปแบบเปิดร้านขายกาแฟ

แฟรนไชส์กาแฟสด THE INDIAN TEA เพิ่มรูปแบบเปิดร้านขายกาแฟ จากเดิมที มีรูปแบบการลงทุนตั้งแต่ 6,900 - 110,000 เป็น 6,900-399,000 เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าในตลาด ที่ต้องการเครื่องทำกาแฟสดและเครื่องบดกาแฟชั้นดี โดยแต่ละราคาจะมีรุ่นของเครื่องที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งเครื่องมีประสิทธิภาพสูงมีฟังก์ชั่นการทำงานที่เพิ่มขึ้นราคาขายก็สูงตาม

เราจัดชุดเพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อเพื่อนำไปประกอบอาชีพขายกาแฟ ซึ่งจะมีทั้งกลุ่มที่เป็นกาแฟและชา ชงสำเร็จ เทขายอย่างเดียว ระดับราคาอยู่ที่ 6,900 - 32,000 บาท และ กลุ่มที่เป็นกาแฟสด ทำขายแก้วต่อแก้ว ระดับราคาอยู่ที่ 110,000 - 399,000 บาท
แฟรนไชส์กาแฟสด THE INDIAN TEA เพิ่มรูปแบบเปิดร้านขายกาแฟ

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ขายกาแฟ เรียนชงกาแฟอร่อยแบบฟรีๆผ่านเว็บและวีดีโอไม่ยาก

ขายกาแฟ เรียนชงกาแฟอร่อยแบบฟรีๆผ่านเว็บและวีดีโอไม่ยากหากคุณตั้งใจศึกษา โลกอินเตอร์เน็ตมีความรู้มากมายที่คนแชร์ให้คุณแบบฟรีๆ หากคุณเป็นผู้มีทุนไม่มากหรือต้องการประหยัดเงิน การศึกษาโดยการค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ตามห้องหนังสือหรือการสือหนังสือมาอ่านเป็นวิธีที่ดีที่สุดผมได้พยายามรวบรวมความรู้ในการทำธุรกิจกาแฟและการขายกาแฟธรรมดาไปจนถึงกาแฟสดมาไว้ที่บล็อกแห่งนี้ เป็นความรู้ที่ผู้ประกอบธุรกิจต่างๆที่มีประสบการณ์ยินดีแชร์ให้คุณ

ตัวผมเองเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการและเป็นผู้ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้พอสมควร ผมเรียนชงกาแฟหลายรอบและสอนลูกค้าชงกาแฟด้วย ที่ได้เรียนหลายรอบเนื่องจากผมซื้อเครื่องทำกาแฟสด เครื่องชงกาแฟสดและเครื่องบดเมล็ดกาแฟเป็นจำนวนมากมาจัดชุดขาย ให้กับผู้ลงทุน ภายใต้ชื่อแบรนด์ที่คุณเห็นบนหัวของบล็อกนี้คุณจะเห็นแถบค้นหาด้านขวามือบน ซึ่งคุณสามารถพิมพ์คำค้าหาที่เกี่ยวข้อง อาทิ สูตรทำกาแฟ เรียนชงกาแฟ ขายกาแฟ ฯลฯ ตามแต่ว่าคุณอยากทราบเรื่องอะไรเพราะไหนๆก็เข้ามาที่เว็บนี้แล้วไม่ให้เสียเที่ยวควรอย่างยิ่งที่จะอ่านและศึกษาเรื่องราวทั้งหมดที่มีอยู่ในนี้ที่คุณสนใจ คุณจะได้พบกับวิธีการทำการตลาดร้านกาแฟสด และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งบางบทความผมเขียนเอง บางบทความผมรวบรวมมา

วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

กาแฟเพื่อสุขภาพ ให้คุณมากกว่าโทษ ถ้าคุณรู้จักดื่ม


จิบกาแฟเพื่อสุขภาพ อัพเดทความรู้ใหม่ และสลัดความเชื่อเก่าที่ผิดๆ เรื่องกาแฟทิ้ง...เพราะมันให้คุณมากกว่าโทษ ถ้าคุณรู้จักดื่ม และนี่คือ 6 ข้อเท็จจริงที่เราเอามาบอก

              1. ไม่จริง...ว่าการดื่มกาแฟทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิต เป็นหมัน ทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์แท้งได้ ส่งผลให้ทารกแรกคลอดน้ำหนักน้อย เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งรังไข่ ซีสต์ในเต้านม และกระดูกพรุน ถ้าคุณดื่มเพียงวันละ 1-2 ถ้วย

             2.  ไม่รู้ใช่ไหม...กาแฟช่วยลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคพาร์คินสัน ลดอันตรายจากตับในผู้ที่มีความเสี่ยงโรคตับ ลดอาการหอบในผู้ที่มีโรคหอบหืด เพิ่มความจำ และสำหรับนักกีฬาจะช่วยเพิ่มความทนและความอึดในกีฬาที่ต้องใช้เวลานาน
            3.  ต้องดื่มบ่อยๆ..สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเพราะต้องการแก้ง่วง แนะนำให้ดื่มปริมาณน้อยๆ แต่กระจายการดื่มออกไปตลอดวัน เช่น แทนที่จะดื่มถ้วยใหญ่ 16 ออนซ์ (500 มล.) ในตอนเช้า ให้ดื่มเพียงครั้งละ 2-3 ออนซ์ (60-90 มล.) แต่บ่อยขึ้น กาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 15 นาที และจะอยู่ในร่างกายนานหลายชั่วโมง และต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงกว่าที่จะถูกขจัดออกจากร่างกาย

ธุรกิจเบเกอรี่ เป็นตลาดที่มีมูลค่ารวมในเกณฑ์น่าสนใจ


ในส่วนของธุรกิจเบเกอรี่นั้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งจากผู้ประกอบการ ในประเทศและต่างประเทศ แต่ก็จัดว่าเป็นตลาดที่มีมูลค่าโดยรวมอยู่ในเกณฑ์น่าสนใจ ดังนั้น นอกเหนือจาก การให้ความสำคัญด้านความสะอาดและรสชาติที่ดีตามมาตรฐานของ S&P แล้ว บริษัทฯ ยังเน้นการพัฒนา บรรจุภัณฑ์ที่ให้ทั้งความสวยงาม เก็บถนอมอาหารได้ดี และสะดวกแก่การบริโภค เป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้า เบเกอรี่ของบริษัทฯ และสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าอีกด้วย

3. การประกอบธุรกิจของแต่ละสายผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์และบริการ

ผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ แบ่งได้เป็น 5 ประเภท ดังนี้

1.  ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่

        บริษัท ฯ มีการพัฒนาเค้กแบบใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ตามโอกาส และเทศกาลต่างๆ  รวมทั้งการซื้อลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูน (Character) ของ วอลต์ ดิสนีย์ มาใช้แต่งหน้าเค้กซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค เป็นอย่างดี   นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางจำหน่ายคุกกี้ ตราเดลิโอ (Delio) ชนิดบรรจุซอง เพื่อให้ราคาต่อหน่วย เหมาะสมกับการทดลองซื้อชิมของผู้บริโภค ทำให้สามารถกระจายการจำหน่ายไปยังจุดจำหน่ายนอกสาขาของ S&P ได้มากขึ้น

กาแฟสดชาวดอย “หอม กรุ่น จากยอดดอย” เมล็ดกาแฟคุณภาพ


กาแฟสดชาวดอย “หอม กรุ่น จากยอดดอย” จากผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดกาแฟคุณภาพ ขอแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ สำหรับผู้มีเงินลงทุนไม่มากนัก ความเสี่ยงต่ำ เหมาะกับคนรักอาชีพขายกาแฟสด ไม่ต้องมีพื้นที่ขายใหญ่ เพียงแค่ 2-3 ตารางเมตร ก็เป็นเจ้าของกิจการได้ไม่ยาก
ความสำเร็จของ SMEs กับการโฆษณา

ดร. กาญจนา   มีศิลปวิกกัย

ธุรกิจ SMEs ที่ประสบความสำเร็จมากมาย ผู้บริหารต่างตระหนักถึงการวางแผนและการตัดสินใจภายใต้ การรวบรวม ปรับ และใช้ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการบริหารจัดการ การวิเคราะห์สภาพการณ์แบบกว้าง ๆ และเฉพาะเจาะจงเพื่อพิจารณาตัดสินใจ ทางเลือกจะถูกนำเสนอตามระดับของค่าใช้จ่าย ความแตกต่างของวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ที่เป็นไปได้
ความจำเป็นของการวางแผน คือ การหาแนวทางเลือกที่เป็นไปได้และกำหนดให้เป็นกลุ่มทางเลือกหลายทาง การตัดสินใจจะพิจารณาจากทางเลือกที่กำหนดไว้ แผนโฆษณาที่สมบูรณ์จะสะท้อนถึงเหตุผลของการตัดสินใจในกระบวนการวางแผน และการตัดสินใจซึ่งจะพิจารณาจากสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจงของตลาดผลิตภัณฑ์นั้น ๆ

เปิดร้านขายกาแฟ ขึ้นมาสักร้านหนึ่ง การทำธุรกิจมุ่งหวังผลกำไร


เปิดร้านขายกาแฟขึ้นมาสักร้านหนึ่ง  ซึ่งแน่นอนครับว่าการทำธุรกิจก็ต้องมุ่งหวังผลกำไร  นั่นก็คือ มิติด้านการเงิน (Financial Perspective) โดยมีตัวชี้วัดคือ ผลกำไร ซึ่งวัดจาก ยอดขาย และ ต้นทุน (หรือเขียนในรูปของสมการอย่างง่ายคือ ผลกำไร = ยอดขาย – ต้นทุน)  ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการที่จะทำให้ผลกำไรเพิ่มขึ้นก็ต้องพิจารณาถึงยอดขาย และต้นทุน ด้วย ทีนี้ถ้าเราจะเพิ่มยอดขาย สิ่งที่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญ

แผนที่ยุทธศาสตร์ (Strategy Map)


สำหรับจดหมายข่าว “เรียนรู้ สู้งาน”  ในฉบับนี้ กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร (กพร.ปค.) ได้หยิบยกเอาเครื่องมือทางการบริหารอย่างหนึ่งมานำเสนอแก่ท่านผู้อ่าน นั่นก็คือ “แผนที่ยุทธศาสตร์ (Strategy Map)” ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากองค์กรไหนได้นำแนวคิดทางการบริหาร Balanced Scorecard หรือที่เรามักจะเรียกกันสั้น ๆ ว่า BSC  มาใช้ (ขออนุญาตใช้ภาษาต่างประเทศนะครับ เพราะคำแปลภาษาไทยอาจจะยังไม่สื่อเท่าที่ควร) เพราะการที่จะนำแนวความคิดของ BSC มาใช้ให้เกิดผลได้ดี องค์ประกอบที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การสื่อสารให้คนในองค์กรได้รับทราบถึงยุทธศาสตร์และแปลงยุทธศาสตร์นั้นไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผล  ซึ่งเราจะได้กล่าวในรายละเอียดต่อไป
แล้วทำไมต้องมีแผนที่ยุทธศาสตร์ด้วยหล่ะ ?

ดื่มชาเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น นับว่าเป็นสมุนไพรชั้นเยี่ยม


ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็หันมาดื่มชาเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น  ด้วยสาเหตุหลายประการ  ซึ่งนับว่าเป็นสมุนไพรชั้นเยี่ยมชนิดหนึ่งของคนไทย  โดยเฉพาะคนจีน  และ ส่วนใหญ่จะนึกถึงประโยชน์สารพัดของการดื่มชาประเภทนี้  ขณะที่หลาย ๆ คนยังไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับใบชามาดื่ม  ดังนั้น ก่อนดื่มชาหรือหาใบชามาชงดื่มที่บ้าน ควรพิจารณาด้วยว่า สรรพคุณ  สารที่อยู่ในใบชา  ประโยชน์และสิ่งที่สำคัญโทษและข้อควรระวังในการดื่มชา  เพื่อการดื่มชาของคุณจะได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย      
 มาดื่มชา.....เพื่อสุขภาพกันเถอะ
                                                                                                    เรียบเรียง    ธนัท   มะโนคำ                                                                                                                                                                  
     
ชา    เป็นเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกนิยมบริโภค  ชาถือกำเนิดมาจากพืชตระกูล  Camellia  มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า   Can   ลักษณะเป็นไม้พุ่ม  ใบแหลมสีเขียว  ดอกสีขาวมีกลิ่นหอม  ส่วนที่นำมาเป็นเครื่องดื่มของการผลิตใบอ่อน  และการแตกหน่อ  ซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณภาพดีที่สุด  แต่ถึงจะมากยังมีหลากหลาย  แบ่งได้  4  ประเภท  แตกต่างกันไปตามกรรมวิธีการหมักบ่มหรือการผลิต
         1. ชาขาว  คือชาที่ได้จากการเลือกเก็บชาที่อ่อนมาก  คือยังมีขนเล็ก ๆ
สีขาวปกคลุมคงสภาพเหมือนใบชาสดเขียวและมาสีขาว  น้ำที่ชงจากชาขาวจะมีสีใส ๆ  ถึงสีเหลืองอ่อนเกมเขียว  แต่ในแต่ละปีจะเก็บเกี่ยวยอดชาเพื่อนำมาผลิตชาขาวได้ในบางวันเท่านั้น
           2. ชาเขียว  คือชาที่ไม่ผ่านกระบวนการหมัก  ในระยะเวลาสั้น  การผลิตชาเขียวทำโดยการผ่านไอน้ำหรือความร้อน  เพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ทันที  จากนั้นนำไปกลิ้งตากแห้งอย่างรวดเร็ว  ใบชาที่ได้จึงยังคงมีสีเขียว  ใบชาเขียวจะมีสารต้านอนุมูลอิสสระ  ซึ่งจะมีผิวด่างดำ  และแห้งกร้าน
            3. ชาอูหลง คือ ชาที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยการหมักแต่เพียง  10 – 80  เปอร์เซ็นต์ คือระยะเวลาการหมักจะนานกว่าชาเขียว  ชาประเภทนี้จะมีสีและกลิ่นมากว่าชาเขียวขึ้นมาหน่อยรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอมเมื่อดื่มจะทำให้รสฝาดและขมเล็กน้อย ชุ่มคอ แต่สามารถช่วยลดความอ้วนและอาการท้องผูก  โดยจะช่วยละลายไขมันและช่วยในการย่อยอาหารและลดประจุในปัสสาวะ
            4. ชาอังกฤษ  นิยมใช้ชาพันธุ์ดีมีสารโพลิทีนอลสูงซึ่งดีต่อสุขภาพ  โดยเริ่มจากการนำใบชาไปหมักด้วยระยะเวลานานก่อให้เกิดการหมักอย่างเต็มที่ซึ่งจะทำให้สีและรสชาติเข้มข้นมาก น้ำชาจะมีสีส้มและสีน้ำตาลแดง  นอกจากรสชาติที่เข้มข้นและมีกลิ่นหอมชื่นใจแล้ว ชาอังกฤษยังกระตุ้นการทำงานของหัวใจ  ขับไล่ความเหนื่อยอ่อน  สร้างความสดชื่น  ป้องกันมะเร็ง  ที่สำคัญช่วยชะลอความแก่  การต้มหรือแช่ชาอังกฤษนาน ๆ จะทำให้ได้สารแทนนินและแร่ธาตุอื่น ๆ มากมาย            
  การดื่มชาเป็นประจำทุกวัน ให้ประโยชน์กับร่างกายอย่างไรบ้าง  แต่ขอแอบกระซิบไว้ก่อนว่า ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย
1. ประโยชน์ประการแรกของการดื่มชาคือ เราจะได้รับสารคาแฟอีนจากใบชา  ซึ่งสารคาแฟอีนนี้จะออกทฤธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง  กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต  ขยายหลอดเลือด  ช่วยทำให้กล้ามเนื้อผอนคลาย  ป้องกันโรคหัวใจตีบตัน  บรรเทาอาการเจ็บหน้าอก  รักษาหวัดและอากการปวดหัวใจ
2. นอกจากสารคาแฟอีนแล้ว  ในใบชายังมีสารโพลิฟีนอล  (  Polyphenol  )  คาร์โบไฮเดรท  และกรดอะมีโน  เมื่อสารเหล่านี้ทำปฎิกิริยากับน้ำลาย  ก็จะช่วยกระจายความร้อนในร่างกายออกไปพร้อม ๆ กับขับสารพิษในร่างกายออกไปด้วย  ส่วนสารอะโรมาติคก็จะช่วยระงับกลิ่นปากและป้องกันฟันผุด้วย
3. ช่วยฆ่าเชื้อโรค  ลดอาการอักเสบ  และช่วยสมานแผล  ตามตำรายาจีนยังบันทึกไว้ว่า  น้ำชาชงแก่ ๆ  1  ถ้อย  ช่วยรักษาโรคบิดได้เป็นอย่างดี
4. ในใบชามีวิตามินซี  วิตามินบีคอมเพล็ก  กรดเพนโทเทนิค   ช่วยให้หลอดเลือดมีความยึดยุน  ไม่เปราะ  ไม่แข็งตัวง่าย  นอกจากนั้นก็ยังมีกรด  Pantothenic  ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื่น  ลดต่อต้านอาการอักเสบ  และอาการของโรคปอดบวม  ที่สำคัญการดื่มชาเขียวเป็นประจำ  สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง  โดยเฉพาะโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร
5. ชาฝรั่งจะมีวิตามินเคอยู่มาก
6. ชาอูหลง สามารถช่วยลดความอ้วนและอาการท้องผูก  โดยจะช่วยละลายไขมันและช่วยในการย่อยอาหารและลดประจุในปัสสาวะ
                      ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็หันมาดื่มชา  ด้วยสาเหตุหลายประการ   ส่วนใหญ่จะนึกถึงประโยชน์สารพัดของการดื่มชาประเภทนี้  ขณะที่หลาย ๆ คนยังไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับใบชามาดื่ม  ดังนั้น ก่อนดื่มชาหรือหาใบชามาชงดื่มที่บ้าน  สรรพคุณ  สารที่อยู่ในใบชา  ประโยชน์และสิ่งที่สำคัญโทษและข้อควรระวังในการดื่มชาเพื่อการดื่มชาของคุณจะได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย
  ชาเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของคนรักสุขภาพในเมืองไทยในระยะ  3 – 4  ปีมานี้เอง  ดูแล้วยังไม่มีใครแซง  “  เครื่องดื่มชา  “     ทั้งชาเขียว  ชาดำ  ชาแดง  ชาขาว  และชานานาชนิด  และยังมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบใบชาแห้งชงน้ำแบบดั้งเดิม  ชาผงอินสแตนต์  ชาขวดพร้อมดื่ม  ชาบรรจุกล่องเหมือนนม   UHT   รู้หรือไม่ว่าธุรกิจชาพร้อมดื่มมูลค่าปีละหมื่นล้านบาท   เหตุที่ยิ่งขายยิ่งมีคนหันมาดื่มชากันมากขึ้นเพราะกระแสสรรพคุณของใบชานี่เองทั้ง ๆ ที่มีข้อมูลเรื่องประโยชน์จากชามานานกว่า 100 ปี มาแล้ว แต่ไม่เร้าใจเท่าระยะ 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อผลการศึกษาพบว่า  ชามีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นหรือต้านอนุมูลอิสระ  ต้านมะเร็งหรือลดการเสี่ยงของมะเร็ง  ยังมีสรรพคุณที่คนสมัยนี้ชอบมากคือ  ลดไขมันและน้ำตาลในเลือด  ยังลดการอักเสบ  ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในช่องปากช่วยให้ปากสะอาดไร้กลิ่น
            สรรพคุณโดนใจขนาดนี้จึงเป็นที่หมายปองของคนประเภทกินไม่ยั้ง กินไม่เหมาะสม  และยังไม่ชอบออกกำลังกาย  กลุ่มคนนี้มักจะหาอะไรก็ได้กินดื่มหลังอาหารรวดเดียวเพื่อจะได้เป็นยาแก้ได้สารพัดนึก  จึงทำให้เครื่องดื่มชาเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วนั่นเอง  และเพราะการดื่มชาไม่ใช่เป็นสิ่งที่แปลกปลอมในวัฒนธรรมของชาวเอเชีย  คนไทยจึงรับการดื่มชาได้ง่าย          
        ในใบชามีสารประกอบหลายชนิด  แต่ที่พูดถึงกันมากคือ  สารกลุ่มโพลีฟีนอล    เพื่อบำรุงสุขภาพแต่ควรให้รู้ไว้ด้วยว่า   ชาแช่เย็นบรรจุขวดหรือกล่องที่ขายดีและแพงนั้น  ไม่เหลือสรรพคุณทางยาแต่อย่างโด  มีแต่รส  กลิ่น  กาแฟอีน  สารแทนนิน  และน้ำตาลธรรมดา ๆ เท่านั้น
                 แต่ไม่ควรลืมด้วยว่า  ใบชานอกจากมีสารออกทฤธิ์เพื่อสุขภาพแล้ว  ยังมีกาแฟอีน  และสารแทนนิน  (  รสฝาด  )   รวมอยุ่ด้วย  สารกาแฟอีนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้   บางคนแพ้สารชนิดนี้ดื่มไปเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ใจสั่นนอนไม่หลับ โดยทั่วไปน้ำชา  1  ถ้วย ( ประมาณ 170  ซีซี )
มีสารกาแฟอีนอยู่ประมาณ  25.5 – 34  มิลลิกรัม  ถ้าดื่มน้ำชา  10 – 12  ถ้วย  ต่อวันก็จะได้รับสารกาแฟอีนเป็นจำนวนมากด้วย
                 และข้อมูลความรุ้ที่ควรรับรู้ทั่วกันว่า  ในน้ำชาและกาแฟ  มีสารกาแฟอีน  และสารแทนนิน  วึงสารทั้ง 2  ชนิดนี้  มีผลทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบีและธาตุเหล็กลดลง   มีการศึกษาพบว่า  กาแฟทำให้มีการดูดซึมธาตุเหล็กลดลงร้อยละ  23 – 60  ส่วนน้ำชาทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กลดลง  ร้อยละ  85 – 88  สารที่ขัดขวางการดูดซึมคือสารแทนนิน  วึ่งในชามีมากกว่ากาแฟ  ในการศึกษายังพบอีกว่าการดื่มนมไม่ทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กเปลี่ยนแปลง  พูดง่าย ๆ เสมอตัว  และที่น่าสนใจพบว่าการดื่มน้ำส้มจะทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น  ดังนั้นการดื่มชาครั้งต่อไปควรบีบมะนาวใส่ตามลงไปด้วย    นอกจากนี้ควรใส่ใจว่า  สารแทนนินที่ส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินบีและธาตุเหล็กนั้น   จะเพิ่มขึ้นมากเมื่อแช่หรือทิ้งใบชาไว้ในน้ำนาน ๆ   ให้สังเกตว่าถ้าชามีรสฝาดมากก็แสดงว่า
มีสารแทนนินมาก  จึงไม่ควรแช่ถุงชาไว้นานเกินไป  แต่โชคดีที่ว่าการลดการดูดซึมธาตุเหล็กของชานั้น  มีผลเฉพาะธาตุเหล็กที่อยู่ในพืช  แต่ไม่มีผลต่อธาตุเหล็กในเนื้อสัตว์  ไข่  นม  ฯลฯ  ดังนั้น  ผู้รับประทานมังสวิรัติจึงต้องระมัดระวังในการดื่มชา  เพราะจะไปลดการได้รับธาตุเหล็กของร่างกาย  และแน่นอนว่าสตรีตั้งครรภ์  และเด็ก  ๆ   ที่กำลังเติบโตมีความต้องการวิตามินบีและธาตุเหล็กจึงไม่แนะนำให้ดื่มชาหรือกาแฟ
             และมีข้อเตือนใจสำหรับคนที่อยากได้สุขภาพดี ๆ  จากใบชา มีรายงานพบว่าคนที่มีสุขภาพดีกินอาหารที่สมดุลอยู่แล้ว  การดื่มชาไม่ส่งผลต่อสภาวะธาตุเหล็กในร่างกาย  แต่คนที่มีสุขภาพที่ย่ำแย่และมีภาวะธาตุเหล็กในร่างกายต่ำอยู่แล้ว  ไม่ควรดื่มน้ำชาหรือกาแฟ  รายงานนี้เตือนสติอีกประการว่า  คนที่หวังดื่มชาเพื่อให้มีสารต้านออกซิเดชั่น  เพื่อฟื้นฟูร่างกายมักเป็นคนที่สุขภาพไม่ค่อยดี  ดังนั้น  ขณะที่ อยากได้สารต้านอนุมูลอิสระก็จะต้องระวังการลดการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกายด้วย

        มีเคล็ดลับมาฝากไว้ว่าใครที่ยังอดใจทิ้งชาไม่ได้เพราะว่าติดสารกาแฟอีนเข้าแล้ว  และก็เสียดายสรรพคุณดี ๆ ในน้ำชา  ขอให้หลีกเลี่ยงดื่มชาหลังอาหาร  ควรดื่มหลังจากรับประทานอาหารแล้ว  2  ชั่วโมง  และใครที่ดื่มวันละ  3 – 4   ถ้วย  ก็ให้ดื่มแบบกระจาย ๆ อย่าหมารวดเดียว  คือเฉลี่ยดื่มระหว่างมื้ออาหาร  เพื่อรอให้ร่างกายย่อยและดูดซึมวิตามินบีและธาตุเหล็กเสียก่อน

         

           เอกสารอ้างอิง

- หนังสือมติชน  สุดสัปดาห์  ปีที่  30  ฉบับที่  1525
- นางสาว สุทธิภรณ์  ไม้วัฒนา    โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย
- www.school.net
- www.tlcthai.comhttp://news.siamjobit.com
         
               
         คำถามท้ายบท
     
1. กรรมวิธีการบ่มหมักหรือการผลิตชามีกี่วิธีอะไรบ้าง  จงตอบมาเป็นข้อ ๆ
2. ประโยชน์ของการดื่มชา  มีอะไรบ้าง  จงตอบมาเป็นข้อ ๆ
3. ชาถือกำเนิดมาจากพืชตระกูลใด  และมีชื่อทางพฤษศาสตร์ว่าอย่างไร

---------------------------------------

Cafe Britt - Premium Gourmet Coffee


กาแฟ ระนองมีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ จำนวน 91,764 ไร่


กาแฟ
ในปี  2548  จังหวัดระนองมีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ  จำนวน  91,764  ไร่  พื้นที่เพาะปลูกมากที่สุดที่
อำเภอกระบุรี  ละอุ่น  และกะเปอร์  ตามลำดับ  พื้นที่ให้ผลผลิต จำนวน  91,269  ไร่  ผลผลิตรวม  จำนวน  14,755  เมตริกตัน และผลผลิตเฉลี่ย  จำนวน  162   กิโลกรัม  / ไร่   เมื่อเทียบกับปี   2547   มีผลผลิตรวมที่เข้าสู่ตลาดลดลง              ร้อยละ  23.31   สำหรับกาแฟที่ปลูกในจังหวัดระนองจะเป็นพันธุ์โรบัสต้าทั้งหมด  เนื่องจากเป็นกาแฟพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ  กาแฟจะเริ่มให้ผลผลิตเมื่อมีอายุประมาณ   3   ปี   และจะให้ผลผลิตสูงสุดประมาณ  4
- 5  ปี  หลังจากนั้นจะให้ผลผลิตลดลง

ข้อมูลการผลิตกาแฟดูการผลิต  ปี  2548/2549  เทียบกับปี  2547/2548

ข้อมูลการผลิต
ปี  2548/2549
ปี  2547 / 2548
เปรียบเทียบ
+ เพิ่ม     /  - ลด  (ร้อยละ)
พื้นที่เพาะปลูก (ไร่)
91,764
106,916
- 14.17
พื้นที่ให้ผลผลิต(ไร่)
91,269
103,199
-  11.56
ผลผลิตรวม  (ตัน)
14,775
19,266
-  23.31
ผลผลิตเฉลี่ย  (กก./ ไร่)
162
187
-  13.37
ต้นทุนการผลิต  (บาท / ไร่)
4,044
3,963
+  2.43

ข้อมูลการผลิตกาแฟดูการผลิต  ปี  2548/2549  เทียบกับปี  2547/2548
แยกรายอำเภอ





อำเภอ /  กิ่งอำเภอ
ฤดูการผลิตปี  2548 / 2549
ฤดูการผลิตปี  2547 / 2548
พื้นที่เพาะปลูก  (ไร่)
พื้นที่ให้ผลผลิต  (ไร่)
พื้นที่เพาะปลูก(ไร่)
พื้นที่ให้ผลผลิต(ไร่)
เมืองระนอง
1,133
1,133
2,057
2,057
กระบุรี
59,117
58,844
59,227
57,077
กะเปอร์
9,203
8,981
13,619
12,256
ละอุ่น
20,764
20,764
30,141
29,937
สุขสำราญ
1,547
1,547
1,872
1,872
รวม
91,764
91,269
106,916
103,199
                                                                         
                                                   ที่มา: ข้อมูลศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดระนอง
                                                                                                             รวบรวมโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดระนอง

ภาวะการค้า
ในปี   2548  ผลผลิตกาแฟลดลงจากปีที่ผ่านมา  ร้อยละ   23.31   เนื่องจากประสบกับภาวะฝนแล้ง 
ทิ้งช่วงนาน  ทำให้ระยะกาแฟออกดอก และติดผลอ่อนร่วงเสียหาย  ประกอบกับเกษตรกรที่ทำสวนกาแฟได้ปล่อยทิ้งสวน  ขาดการดูแล เป็นผลสืบเนื่องจากปีที่ผ่านมาราคากาแฟตกต่ำ  ไม่จูงใจด้านราคา  และราคาปุ๋ยเคมีสูงขึ้นทำให้ต้นทุนในการดูแลรักษาสูงขึ้นตาม ไม่คุ้มกับการลงทุน

ตารางแสดงราคากาแฟจังหวัดระนอง
ปี  2546 2548

เดือน
ปี  2546
ปี  2547
ปี  2548
พฤศจิกายน
28.50
-
-
ธันวาคม
29.25
31.00
40
มกราคม
29.75
31.00
44
กุมภาพันธ์
28.38
31.25
46
มีนาคม
27.75
-
40
เฉลี่ย
28.75
31.08
42.50

สำหรับราคากาแฟในปี  2548  สูงกว่าปีที่ผ่านมา  เนื่องจากผลผลิตลดลงในขณะที่ปริมาณความต้องการ
เพิ่มมากขึ้น  นอกจากนี้สถานการณ์ราคาในตลาดโลกสูงขึ้นด้วย  ทำให้มีการแข่งขันซื้อผลผลิตจากเกษตรกร  ส่วนการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดเมล็ดกาแฟปี  2548 / 2549  เนื่องจากเกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตได้ราคา
สูง และไม่มีเกษตรกรนำเมล็ดกาแฟไปจำนำ จึงไม่มีการดำเนินมาตรการแทรกแซงตลาดด้วยวิธีรับจำนำ


-------------------------------------------

Cafe Britt - Premium Gourmet Coffee


แฟรนไชส์กาแฟ "เอี๊ยะแซ" กาแฟดัง ย่านเยาวราช อายุ 77 ปี


เปิดแฟรนไชส์กาแฟ "เอี๊ยะแซ" กาแฟดัง ย่านเยาวราช อายุ 77 ปี
วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 10 ฉบับที่ 125

  "เอี๊ยะแซ" ร้านขายกาแฟเก่าแก่ย่านเยาวราช ที่นับอายุย้อนหลังไปไกลได้ 77 ปี มาถึงวันนี้ ทายาทที่เข้าดำเนินกิจการเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว
  การปรับตัวอย่างหนึ่งของกาแฟยี่ห้อเก่าแก่นี้คือการรับผู้เข้าร่วมลงทุนในระบบแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ ที่ "เส้นทางเศรษฐี" จะได้นำมากล่าวถึงในคราวนี้
  ได้พูดคุยกับ คุณปริญญา ทองวิริยะกุล กรรมการผู้จัดการเอี๊ยะแซ และเขาคือทายาทรุ่นที่ 4 ที่พูดถึง คุณปริญญา ได้เล่าให้ฟังถึงการผ่านร้อนผ่านหนาวของกาแฟยี่ห้อนี้มาอย่างโชกโชน ผ่านภาวะเศรษฐกิจมาหลายยุคหลายสมัย
  ที่ตั้งร้านดั้งเดิมคือ ย่านเยาวราช แหล่งขายทองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศ และยังเป็นแหล่งอาหารการกินที่อร่อยขึ้นชื่ออีกด้วย "เอี๊ยะแซ" ยึดหัวหาดทำเลนี้มาแต่เริ่มต้น จนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งคุณปริญญา ว่า แม้จะย้ายที่ขายไปมาแต่ก็ไม่เกินรัศมี 30 เมตรโดยรอบ แต่ทำเลหลักก็คือหน้าร้านขายทองฮั่วเซ่งเฮง ในเวลากลางคืน และตึกแถวในซอยเมืองทองนาฬิกา ที่ใครๆ ในย่านเยาวราชรู้จักกันดี
  ด้วยรูปแบบของร้านและรสชาติของกาแฟ ทำให้ร้านแห่งนี้มีลูกค้าประจำอยู่พอสมควร แม้เจ้าของร้านเองก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่า ในแต่ละวันเขาได้ต้อนรับใครไปบ้าง บางคนมีฐานะทางสังคม มีหน้าที่การงานใหญ่ระดับประเทศ บ้างเป็นผู้บริหารใหญ่ของบริษัทภาคเอกชน บ้างเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ฯลฯ
  แต่วันหนึ่ง ที่ร้านแห่งนี้ได้มีโอกาสต้อนรับ หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ นักชิมชื่อดังของเมืองไทย และจากวันนั้นเองที่ผู้เป็นเจ้าของร้านบอกว่าเป็นจุดที่ทำให้ร้านเติบโตขึ้นมาได้
  "คุณอาหม่อมบอกว่า กาแฟอย่างนี้ ชั้นหากินมานานแล้ว" คุณปริญญา เล่าให้ฟัง และในวันรุ่งขึ้น ป้ายเชลล์ชวนชิมก็มาถึงที่ร้าน
  จากรสชาติที่พิเศษไม่เหมือนใครและป้ายการันตีความอร่อยนี้เองที่ทำให้ เอี๊ยะแซ เข้าไปขายในฟู้ดส์เซ็นเตอร์ของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ราชดำริ ห้างดังเมื่อหลายสิบปีก่อน และเป็นห้างในยุคแรกๆ ที่นำศูนย์อาหารเข้าไปขายในห้างสรรพสินค้า
  "หลังจากที่เข้าไปขายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ราชดำริแล้ว ยังเข้าไปขายในห้างอื่นๆ ได้อีกราว 22 จุด" คุณปริญญา เล่าให้ฟัง
  กิจการดูเหมือนว่ากำลังไปได้สวย แต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนับแต่ช่วงต้นปี 2540 เป็นต้นมา ทำให้หลายห้างสรรพสินค้า พยายามปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และการขายน้ำดื่ม เครื่องดื่มด้วยตัวเอง เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่บรรดาห้างสรรพสินค้านำมาใช้ จุดนี้เองที่ เอี๊ยะแซ ต้องค่อยถอยตัวออกมาจากห้าง
  "ผมคิดว่า เราไม่จำเป็นต้องจับตลาดบนเสมอไป เราลงมาอยู่ระดับกลางๆ และขายในตลาดทั่วๆ ไปก็น่าจะได้ ผมเลยออกยืนขายบนรถเข็นหน้าห้างร้านขายทองฮั่วเซ่งเฮง ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ"
ไม่ว่าจะขาย ณ จุดใด ลูกค้ายังให้การยอมรับอยู่เช่นเดิม ด้วยมีจุดขายที่แข็งแกร่งคือรสชาติที่ถูกปากผู้บริโภค และในระยะต่อมา ผู้บริโภคเริ่มสนใจกิจการกาแฟมากขึ้น จึงเข้ามาถามคุณปริญญาอยู่บ่อยครั้งในเรื่องของการขยายสาขาด้วยระบบแฟรนไชส์
  "ผมมองดูแล้วว่า หากเราขยายสาขาด้วยตัวเอง ต้องใช้เงินเป็นจำนวนสูงมาก และต้องใช้กำลังคนมาก การควบคุมอาจจะไม่ทั่วถึง แต่ถ้าเราใช้ระบบแฟรนไชส์ อาจจะเป็นไปได้มากกว่า" คุณปริญญา ว่าอย่างนั้น
  ทว่า การขยายสาขาด้วยระบบแฟรนไชส์ มิใช่ว่า นึกจะขายก็ขายได้ เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด หรืออย่างที่คนคิดง่ายๆ ก็พับเสื่อกันไปเป็นแถว เพราะอย่าลืมว่าการขายแฟรนไชส์ ก็คือการให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มาใช้ชื่อร้าน มาใช้ระบบร้านของตัวเอง ทำได้ดีก็ดีไป ทำไม่ดี ก็มิใช่ว่าจะเสียชื่อแค่คนทำ หากแต่จะเสียกันไปทั้งระบบ นั่นคือลูกค้าไม่ได้ต่อว่า นาย ก นาย ข ทำไม่ดี แต่เขาจะว่า ร้าน "จุดจุดจุด" นี้ทำไม่ดี ดังที่มีคนพูดว่า จะหาผู้เข้าร่วมแฟรนไชส์ หรือในขณะเดียวกัน ที่หาเลือกหาซื้อแฟรนไชส์ ก็เหมือนคนที่กำลังจะแต่งงานกัน ต้องร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกันตลอด แม้จะมีสัญญาหรือทะเบียนสมรส แต่ถ้าไปด้วยกันไม่ได้ ก็ต้องพบกับภาวะ กระอักกระอ่วน กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่อย่างนั้น
ทางด้านของคุณปริญญา ก็เช่นเดียวกัน เขาว่า แม้จะมีใครที่มีเงินมาสักแค่ไหน แต่ถ้าไม่มี "ใจ" ให้กันแล้ว เขาก็คงไม่เอาแบรนด์ที่สู้อุตส่าห์สร้างสมมาเกือบจะร้อยปีอยู่แล้ว เข้าไปแลกเด็ดขาด ดังนั้น จึงไม่แปลกใจหากผู้เป็นเจ้าของ จะรักชื่อ รักยี่ห้อของตัวเองอย่างยิ่ง
  "ส่วนใหญ่ที่เข้ามาถามผมเรื่องแฟรนไชส์ จะถามผมว่า เท่าไหร่ ผมก็จะบอกไป แต่ถามต่ออีกว่า ได้อะไรบ้าง ผมไม่อยากตอบ เพราะต้องมาคุยกันมากกว่า แน่นอนว่า การที่ผมจะขายให้ใครไปผมก็ต้องการให้อยู่รอดได้ ไม่ใช่ซื้อไปแล้วก็ไปไม่รอด อย่างนั้นผมแย่ด้วยนะ"
  คุณปริญญา เล่าให้ฟังอีกว่า ลูกค้าที่เข้า ที่ตั้งใจจริง มักจะมีทำเลอยู่ในมือแล้ว คือมองแล้วว่าจะไปขายที่ไหน ขายอย่างไร ก็เข้ามาคุย เข้ามาถามถึงเงื่อนไขต่างๆ แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีทำเลเขาว่าแสดงว่ายังไม่มีความตั้งใจจริงเท่าที่ควร
  อย่างที่ผู้ประกอบการรายนี้ว่าไว้ คนที่ตั้งใจจริง น่าจะมีทำเลอยู่แล้ว หรืออย่างน้อยก็ต้องเล็งๆ ไว้ก่อน เพราะไม่ว่าจะลงทุนอะไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรมีข้อมูลอยู่ในมือบ้างแล้วว่า หนึ่ง ตัวเองอยากทำอะไร หรืออย่างน้อยๆ ต้องตอบได้ว่า ตัวเองรักหรือถนัดในเรื่องใด เพราะการทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดจะประสบความสำเร็จได้ง่าย เท่ากับว่าได้ให้ "ใจ" ไปแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อมาคือ มีอะไรอยู่ที่หน้าตักตัวเองบ้าง สิ่งที่อยู่ที่หน้าตักนี้หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เท่าที่พอจะนำไปข้องเกี่ยวกับการลงทุนได้ ทั้งเงินทุน (อันนี้สำคัญที่สุด) แรงงาน พื้นฐานความรู้ ความถนัด อุปกรณ์ ทำเล สถานที่ ความสัมพันธ์ หรือที่พูดๆ กันว่า คอนเน็กชั่น กับคนอื่นๆ หากใช้สิ่งที่มีอยู่แล้ว เป็นตัวลงทุนในเบื้องต้น สิ่งที่ตามมาก็จะง่ายขึ้น

  "ผมเคยเจอประเภทที่เป็นนายทุน มีเงิน แล้วกะจะมาทำเล่นๆ ปล่อยลูกน้อง อย่างนั้นผมไม่เอาเลยนะ เพราะผมต้องการให้ผู้ลงทุนจริงจัง และจริงใจต่อกัน ผมยอมเหนื่อยกับคนที่จริงใจและรักยี่ห้อของผมมากกว่า นอกจากนี้ ผมยังกำหนดไว้ในสัญญาเลยว่า ผมสามารถเข้าไปตรวจเยี่ยมร้านค้าเมื่อใดก็ได้ และสามารถเข้าไปดูแลในส่วนเตรียมเครื่องดื่มได้เลย ถ้าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ผมสามารถเลิกได้เลย ผมทำมาขนาดนี้ ผมก็เคยเจออยู่คนหนึ่ง แรกๆ เค้าดีมากเลยนะ ต่อมามาตรฐานค่อยๆ ลดลง ผมว่า คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ เค้าท้าให้ผมไปฟ้อง ผมก็บอกว่า คนเราทำมาหากิน ผมไม่เสียเวลาไปฟ้องหรอก แต่อย่าได้มาเจอะมาเจอกันในแวดวงนี้อีกเลย"
  สำหรับเงื่อนไขการลงทุนกับแฟรนไชส์ "เอี๊ยะแซ" มีอยู่ว่า เสียค่าธรรมเนียมในปีแรก 40,000 บาท และปีต่อไปปีละ 20,000 บาท สัญญา 3 ปี ทางบริษัทส่งของให้ ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ไปสามารถใช้ชื่อนี้ได้ และได้รับการฝึกอบรมการจัดการร้านจนกว่าจะสามารถทำได้
  "บางคนส่งลูกน้องมาทำอย่างเดียว ผมไม่ยอม เพราะผมคิดว่า ผู้ลงทุนต้องทำเป็นเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือไม่เคยทำอะไรมาเลย ถ้าซื้อแฟรนไชส์ผมแล้ว ต้องมาฝึกฝน มาอบรม เพราะอะไร เพราะถ้าวันดีคืนดีลูกน้องออกไปล่ะ คุณไม่แย่หรือ อีกอย่างผมไม่สามารถรู้สภาวะของแต่ละคนได้"
  นอกจากนี้ คุณปริญญา ยังบอกอีกว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ร้านกาแฟของเขามีลูกค้าประจำอยู่มากทีเดียว และหากเขาได้รับคำติชมจากลูกค้า ไม่ว่าจะไปใช้บริการในสาขาใด เขาจะยึดคำติชมนั้นเป็นหลักและเขาสามารถนำคำติชมนี้ไปดำเนินการกับผู้ซื้อแฟรนไชส์ได้ เพราะถือว่า การที่ลูกค้านำข่าวสารมาบอกนี้ ลูกค้าไม่ได้ประโยชน์อะไรด้วย
เมล็ดกาแฟมาจากสองแหล่งคือ อะราบิก้า มาจากเหนือ และโรบัสต้า มาจากทางภาคใต้ มาผ่านการคั่วและบดโดยโรงงานที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาครไม่เพียงแต่เปิดรับผู้เข้าร่วมแฟรนไชส์ กาแฟ เอี๊ยะแซ ยังมีขายเป็นถุงๆ สำหรับไปชงดื่มเองที่บ้าน หรือร้านอาหารที่ต้องการนำไปชงบริการลูกค้าในร้าน
  สำหรับงานเมืองแห่งภูมิปัญญา หรือ โอท็อปซิตี้ ครั้งที่ 2 เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2547 ที่ผ่านมานี้ "เอี๊ยะแซ" ได้ไปออกร้านและได้รับคัดเลือก ผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนของจังหวัดสมุทรสาคร ในระดับ 5 ดาว โดยยึดจังหวัดฐานการผลิตเป็นจุดในการพิจารณา
  จนถึงวันนี้ เอี๊ยะแซ มีสาขาอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และเมื่อไม่นาน ยังได้รับเลือกให้เข้าไปบริการในส่วนคอฟฟี่ แบงกิ้ง ของธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งอีกด้วย และนี่คือเรื่องราวของกาแฟ ที่สร้างชื่อมานาน 77 ปี โดยค่อยสะสมค่อยเป็นค่อยไป จากรุ่นทวด มาสู่รุ่นเหลน หรือทายาททางธุรกิจในรุ่นที่ 4 จากขายรถเข็น ตั้งกระทะคั่วเมล็ดกาแฟ มาสู่การกระจายสาขาไปทั่วประเทศ และมีโรงงานผลิตใหญ่โตจนเป็นที่ยอมรับ เหล่านี้มิใช่สิ่งที่ลอยมาในอากาศ หากแต่เกิดจากความตั้งใจ มุ่งมั่น และสร้างสมเป็นประสบการณ์ เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่โทร. (02) 622-4080, (01) 573-3388
ข้อมูลจำเพาะ
ประเภทธุรกิจ กาแฟ
การดำเนินการ ระบบแฟรนไชส์
การลงทุน 40,000 บาท
แรงงาน 1-2 คน
ทำเล ย่านชุมชน
สัญญา 3 ปี ต่อสัญญาปีต่อไปปีละ 20,000 บาท
ข้อได้เปรียบ รูปแบบร้าน ชื่อเสียง และรสชาติของกาแฟ

-----------------------------------

Cafe Britt - Premium Gourmet Coffee