ธุรกิจเบเกอรี่ เป็นตลาดที่มีมูลค่ารวมในเกณฑ์น่าสนใจ

ในส่วนของธุรกิจเบเกอรี่นั้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งจากผู้ประกอบการ ในประเทศและต่างประเทศ แต่ก็จัดว่าเป็นตลาดที่มีมูลค่าโดยรวมอยู่ในเกณฑ์น่าสนใจ ดังนั้น นอกเหนือจาก การให้ความสำคัญด้านความสะอาดและรสชาติที่ดีตามมาตรฐานของ S&P แล้ว บริษัทฯ ยังเน้นการพัฒนา บรรจุภัณฑ์ที่ให้ทั้งความสวยงาม เก็บถนอมอาหารได้ดี และสะดวกแก่การบริโภค เป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้า เบเกอรี่ของบริษัทฯ และสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าอีกด้วย

3. การประกอบธุรกิจของแต่ละสายผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์และบริการ

ผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ แบ่งได้เป็น 5 ประเภท ดังนี้

1.  ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่

        บริษัท ฯ มีการพัฒนาเค้กแบบใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ตามโอกาส และเทศกาลต่างๆ  รวมทั้งการซื้อลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูน (Character) ของ วอลต์ ดิสนีย์ มาใช้แต่งหน้าเค้กซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค เป็นอย่างดี   นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางจำหน่ายคุกกี้ ตราเดลิโอ (Delio) ชนิดบรรจุซอง เพื่อให้ราคาต่อหน่วย เหมาะสมกับการทดลองซื้อชิมของผู้บริโภค ทำให้สามารถกระจายการจำหน่ายไปยังจุดจำหน่ายนอกสาขาของ S&P ได้มากขึ้น


สำหรับการพัฒนากระบวนการผลิตนั้น บริษัทฯ ได้ย้ายการผลิต เค้กเนยแช่แข็งชนิดบรรจุกล่อง และชนิดบรรจุซองไปยังโรงงานเบเกอรี่ที่ถนนบางนา-ตราด กม.23 โดยที่โรงงานแห่งนี้ได้ติดตั้งเครื่องจักรให้อากาศ (Mondomix) และ เตาอบใหม่ซึ่งได้ลงทุนไว้เมื่อปีพ.ศ. 2547- 2548 ทำให้สามารถผลิตเค้กที่มีเนื้อเนียนละเอียด ควบคุมคุณภาพของเนื้อเค้กได้สม่ำเสมอ และสะอาด

บริษัทฯ ยังมีการลงทุนซื้อเครื่องจักรผลิตพายแช่แข็งอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ผลิตพายแช่แข็งได้คุณภาพสม่ำเสมอ สามารถผลิตได้ถึงวันละ 100,000 ชิ้น  นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาลานจัดส่ง (Loading Dock) ตามมาตรฐาน GMP ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพในการจัดส่งสินค้าได้ดีขึ้น

2. ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง

สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งของบริษัทฯ สามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้

2.1 อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง “ควิกมีล” (Quick Meal) ซึ่งผลิตจำหน่ายทั้งประเภทอาหารจานเดียว กับข้าว ขนมหวาน อาหารมังสวิรัติ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับวิถีชีวิตอันรีบเร่งของคนเมืองซึ่งไม่มีเวลาใน การเตรียมอาหารมากนัก เพียงนำอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง         “ควิกมีล” อุ่นในเตาไมโครเวฟ ไม่กี่นาทีก็รับประทานได้

2.2 อาหารแช่แข็งประเภทถุง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับร้านอาหารสาขา ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการเตรียมอาหารให้ลูกค้า ตลอดจนช่วยควบคุมสูตรการผลิตให้ได้ คุณภาพสม่ำเสมอ และช่วยควบคุมต้นทุนอีกด้วย

2.3 ผลิตภัณฑ์ประเภทซอส น้ำจิ้ม และเครื่องแกงต่างๆ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับร้านอาหารสาขา


3. ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป

บริษัทมีการผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป โดยเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป และผลิต เพื่อเป็นวัตถุดิบให้แก่ร้านอาหารสาขา ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้แก่

3.1 ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกและแฮม  ประเภทบรรจุซองสุญญากาศสำหรับขายปลีก อาทิเช่น      ไส้กรอกแฟรงเฟอร์เตอร์ ไส้กรอกหมูกระเทียมพริกไทย ไส้กรอกชีส ไส้กรอกรวมรส แฮม  และอื่นๆ ซึ่งมีจำหน่ายในร้านอาหารสาขา ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อต่างๆ

3.2 ผลิตภัณฑ์ไส้กรอก แฮม และเนื้อหมู - ไก่ปรุงรส สำหรับส่งเป็นวัตถุดิบให้กับร้านอาหารสาขา เพื่อนำไปปรุงอาหารต่อไป

4. ผลิตภัณฑ์พาสต้าและวัตถุเจือปนอาหาร


4.1 ผลิตภัณฑ์เส้นพาสต้าอบแห้ง ได้แก่ เส้นสปาเก็ตตี้ และมักกะโรนี ภายใต้แบรนด์
“รอยัลลี” (ROYALLEE) บรรจุขายปลีกตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป

4.2 ผลิตภัณฑ์วัตถุดิบเจือปนอาหาร ได้แก่ ผงฟู สีผสมอาหาร และเคมีอาหารต่างๆ เพื่อจำหน่ายให้แก่ กลุ่มผู้ผลิตขนมปัง ขนมอบ ระดับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อย่างอื่น ๆ ในกลุ่มนี้ เช่น ผงคัสตาร์ด แป้งแพนเค้ก และแป้งผสมสำหรับทำเบเกอรี่ ประเภทต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ “รอยัลลี” (ROYALLEE)  ซึ่งวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต

4.3 สายการผลิตนี้ยังสามารถรับจ้างผลิต บด ผสม แป้งประเภทต่าง ๆ และน้ำตาลป่นโดยบรรจุ ตามขนาดที่ลูกค้าต้องการอีกด้วย


ในปี 2548 บริษัทฯ ได้นำระบบบริหารคุณภาพที่ได้รับมาตรฐานสากล ได้แก่ GMP, HACCP, ISO 9001 มาใช้กับการผลิตอาหารทั้ง 4 ประเภทดังกล่าวข้างต้น และได้รับการรับรองจากหน่วยรับรองระบบคุณภาพภาครัฐบาล ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข กรมวิชาการเกษตรและกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ตลอดจนได้รับการรับรองจากหน่วยงานรับรองคุณภาพภาคเอกชนอย่างเช่น TÜVNORD ( THAILAND ) CO.,LTD.

5. ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

5.1 บริษัทฯ ได้ว่าจ้างผู้ผลิตภายนอกให้ผลิตสินค้าประเภทอื่น ๆ เช่น ข้าวเกรียบกุ้ง-ปลา ถั่วอบกรอบ    ปลาหมึกกรอบ ขนมไทย รังนก ซุปไก่สกัด ฯลฯ ภายใต้ชื่อ S&P เพื่อจำหน่ายตามร้านสาขาต่างๆ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ใช้กระบวนการคัดสรรผู้ผลิตที่ได้คุณภาพและมาตรฐานตามที่บริษัทฯ กำหนด

5.2 บริษัทฯ ได้ผลิตน้ำสลัด ซุปและซอสต่างๆ ภายใต้ชื่อ “Patio” เพื่อจำหน่ายทั้งในร้านสาขาและ    ซุเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำอีกด้วย

5.3  สำหรับผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ Vanilla ได้มีการพัฒนาสินค้าหลากหลายประเภทเพื่อวางจำหน่ายในร้าน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ อุปกรณ์ทำเบเกอรี่ ของที่ระลึก เช่น เสื้อยืด ผ้ากันเปื้อน นาฬิกา ฯลฯ

การบริการ

ธุรกิจการบริการของบริษัทฯ แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

1. ร้านอาหารและร้านเบเกอรี่ในประเทศ ให้บริการภายใต้ชื่อร้านต่าง ๆ ดังนี้

1.1 S&P Restaurants – เป็นร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบด้วยอาหารนานาชนิด เค้ก  ของหวาน ไอศกรีมและเครื่องดื่ม โดยให้บริการกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่ครอบครัว นักเรียนนักศึกษา คนทำงาน ฯลฯ

1.2 S&P Bakery Shop – เป็นมุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ “S&P” ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าชั้นนำ ซูเปอร์สโตร์ ดิสเคานท์สโตร์ โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน และสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเป็นทำเลที่มีผู้บริโภค สัญจรไปมาคับคั่ง

1.3 Blue Cup - เป็นเคาน์เตอร์กาแฟจำหน่ายกาแฟสดคุณภาพดี ปัจจุบันมีให้บริการในร้าน S&P 129 จุด นอกจากนี้ยังได้เปิดร้าน Bluecup ebb and flo.ที่เน้นการจำหน่ายกาแฟและชาชั้นดีจากต่างประเทศขึ้น เป็นสาขาแรกที่

1.4 Patara – เป็นร้านอาหารซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนและลูกค้าชาวต่างประเทศ ให้บริการ อาหารไทยที่จัดแต่งแบบร่วมสมัย ด้วยเมนูหลากหลาย ท่ามกลางบรรยากาศหรูหรา

1.5 Patio – เป็นร้านอาหารฝรั่งในบรรยากาศสบาย ๆ โดยมีเมนูอาหารซึ่งคัดสรรแล้ว และจัดเสิร์ฟอย่าง มีสไตล์ นอกจากนี้ ทางร้านยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์โฮมเมดจำพวก น้ำสลัด ซุป พาสต้า ซอสรสต่าง ๆ อีกด้วย

1.6 Vanilla - เป็นร้านอาหารและเบเกอรี่แนวทันสมัย จำหน่ายอาหารฝรั่งและขนมหวานประเภทต่างๆ  จัดบรรยากาศร้านเจือกลิ่นอายแบบยุโรป เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ยัง เปิดสอนการทำอาหารให้กับผู้ที่สนใจด้วย ทั้งนี้ ภายใต้ชื่อ Vanilla จะแบ่งเป็นร้านอาหารในแนวต่างๆ เช่น Vanilla Industry, Vanilla Restaurant และ Vanilla Brasserie เป็นต้น

1.7 มังกรทอง  เป็นร้านอาหารจีนสมัยใหม่รสชาติระดับภัตตาคาร พร้อมบริการติ่มซำรสเลิศ

1.8 Grand Seaside -  เป็นร้านอาหารทะเลตั้งอยู่ที่แหลมฟาน อำเภอศรีราชา ให้บริการอาหารต่าง ๆ โดยเน้นเมนูอาหารทะเลที่สด สะอาด ท่ามกลางบรรยากาศชายทะเล และยังมีบริการจัดเลี้ยงสำหรับแขกจำนวนมากอีกด้วย

ตารางแสดงจำนวนสาขาร้านอาหารและร้านเบเกอรี่ทั่วประเทศ    ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548    มีดังนี้
สาขาในกรุงเทพฯ สาขาต่างจังหวัด รวมทั้งสิ้น
        ร้านอาหาร   S&P 50 26 76
        ร้านเบเกอรี่  S&P 85 63 148
        ร้านอาหาร  Patara 1 - 1
        ร้านอาหาร  Patio 3 - 3
        ร้านอาหาร  Vanilla 2 - 2
        ร้านอาหารมังกรทอง 1 - 1
        ร้านกาแฟ Bluecup 1 - 1
        ร้านอาหาร Grand Seaside 1 - 1
                     รวม 144 89 233

2. ร้านอาหารในต่างประเทศ

บริษัท เอส แอนด์ พี โกลเบิล จำกัด เป็นผู้บริหารร้านอาหารสาขาของเอสแอนด์พีในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 18 สาขา ภายใต้ชื่อต่างๆ ดังนี้

2.1 Patara Fine Thai Cuisine เป็นร้านอาหารไทยร่วมสมัยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน      โดยเน้นความ ประณีตในการนำเสนอ รสชาติของอาหาร การให้บริการ ตลอดจนรูปแบบการตกแต่งร้านอาหาร ของร้าน “Patara” มีรสชาติที่คงเอกลักษณ์ของอาหารไทยแท้ ๆ ถึงแม้จะเป็นร้านอาหารที่ให้บริการ แก่ลูกค้าชาวต่างชาติ

ในปี 2548 ร้านอาหาร Patara สาขาลอนดอน ได้รับรางวัล PM Award 2005 (Prime Minister’s Export Award 2005) ด้าน Best Service Provider ทั้งยังได้รับคำชื่นชม และการโวตจากนิตยสาร ชั้นนำต่าง ๆ ว่าเป็นร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงลอนดอน

2.2   Siam Kitchen - เป็นร้านอาหารไทยแบบเรียบง่ายในสิงคโปร์ เน้นอาหารจานเดียว ทำเลที่ตั้งส่วนใหญ่จะอยู่ตามห้างสรรพสินค้าในแหล่งชุมชน เพื่อสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย การตกแต่งร้านใช้รูปแบบทันสมัย แต่แฝงความเป็นไทยด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สยามคิทเช่น มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งทางร้านได้รับเครื่องหมายรับรอง ฮาลาล (Halal) ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าชาวมุสลิมที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในสิงคโปร์

2.3 Thai - เป็นร้านอาหารไทยแนวร่วมสมัยอยู่ในกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เน้นเมนู อาหารไทยผสมตะวันตก  ตกแต่งร้านในแนวหรูหรา เจือกลิ่นอายความเป็นไทยด้วยวัสดุตกแต่ง

2.4 Patio – เป็นร้านอาหารฝรั่งร่วมสมัยในบรรยากาศสบาย ๆ เมนูเน้นอาหารตะวันตกที่ คัดสรรแล้ว โดยมีเมนูอาหารไทยบางรายการซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างประเทศ ตกแต่งร้านในแบบเรียบง่าย และใช้วัสดุตกแต่งร้านจากประเทศไทยเพื่อแสดงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย

ตารางแสดงจำนวนสาขาร้านอาหารต่างประเทศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 มีดังนี้
        ร้านอาหาร  Patara 8
        ร้านอาหาร  Patio 2
        ร้านอาหาร  Siam Kitchen 7
        ร้านอาหาร THAI 1
                     รวม 18

3. บริการจัดส่งอาหารถึงบ้านและจัดเลี้ยงนอกสถานที่

3.1 บริษัทฯ ให้บริการจัดส่งอาหารถึงบ้าน โดยลูกค้าสามารถโทรศัพท์ไปยังหมายเลขใหม่ คือ“1344” (สำหรับเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด) เพื่อสั่งอาหารและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ S&P นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้บริการอาหารปิ่นโต ซึ่งมีรายการอาหารที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ปัจจุบันบริการจัดส่งอาหารถึงบ้านได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก มีผู้บริโภคใช้บริการเป็น จำนวนกว่า 1,000 รายการต่อวัน ในปี 2549 บริษัทฯ มีแผนจะขยายพื้นที่การจัดส่งเพื่อตอบสนอง ความต้องการของผู้บริโภคให้กว้างขวางมากขึ้น

3.2 บริษัทฯ มีบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ทุกประเภท ตั้งแต่ งานแต่งงาน งานวันเกิด  งานประชุมสัมมนา ต่างๆ ตลอดจนการจัดอาหารกล่องสำหรับการเดินทางหรือสันทนาการ และงานสวดพระอภิธรรม โดยเป็นการให้บริการแบบครบวงจรจากบริกรที่มีความชำนาญ  พร้อมบริการจัดโต๊ะ จัดดอกไม้ และจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับงานเลี้ยง ปัจจุบันบริการจัดเลี้ยงมีกลุ่มลูกค้า เช่น หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน สถานทูต ฯลฯ

การตลาด      

นโยบายการตลาดที่บริษัทฯ ยึดถือเป็นปรัชญาหลักในการดำเนินงานเสมอมา คือ การสร้างความพึงพอใจ ให้แก่ลูกค้า และให้ลูกค้าตระหนักถึงชื่อของ S&P เมื่อนึกถึงอาหารและเบเกอรี่ที่มีคุณภาพและบริการ อันอบอุ่นน่าประทับใจ สมกับคำขวัญ “ผู้ให้บริการชั้นยอด และผลิตภัณฑ์ชั้นเยี่ยม” (Super Service & Premium Products) ในแวดวงอาหารและเบเกอรี่ของเมืองไทย กลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทแบ่งได้เป็น 4 ประเภทดังนี้

1.  ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์

บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งทางด้านอาหารและเบเกอรี่อย่างต่อเนื่อง  เพื่อตอบสนองความ ต้องการและวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นในปี 2548 ก็ได้แก่ แบล็คฟลอเรสต์ดรีมโรล, คุกกี้พรีเมียม (รสชีส บัตเตอร์แยมริง อัลมอนด์ ช็อคโกแลตชิพ และอัลมอนด์บอล) ไส้กรอกคลาสสิค (ค๊อลเทล ฮอทด็อก เวียนนา) เบคอน อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง “เทสตี้ มีล” (Tasty meal) ผลิตภัณฑ์เจลลี่สำเร็จรูปตรา “เจลิโอ” (Jelio) เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่ออื่นนอกเหนือจากชื่อ S&P ซึ่งได้แก่ Patio, Vanilla และ Delio เพื่อเป็นการขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อีกด้วย

ทางด้านบรรจุภัณฑ์ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยและสวยงาม เพื่อให้ผู้บริโภค สามารถเลือกสรร และนำไปเป็นของขวัญของกำนัลได้ในทุกโอกาส ให้สมกับคำที่ว่า “สุขใจผู้ให้ พอใจผู้รับ” ซึ่ง บรรจุภัณฑ์ในปี 2548 ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ Cookie Kids, ขนมไหว้ พระจันทร์ลายการ์ตูน Disney เป็นต้น

2.  การกำหนดราคา

บริษัทฯ มีนโยบายในการกำหนดราคาขายผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้
-  ต้นทุนของวัตถุดิบหลัก และต้นทุนในการผลิต
-  ราคาขายผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง หรือเกณฑ์ราคาขายโดยทั่วไปในตลาด
-  อัตราผลกำไรขั้นต้นที่ต้องการสร้างจากผลิตภัณฑ์กลุ่มนั้นๆ

3.  ช่องทางการจัดจำหน่าย

บริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายหลักอยู่ 5 ช่องทาง ได้แก่

3.1 ร้านอาหารและร้านเบเกอรี่ในประเทศ – ปัจจุบันร้านอาหารในเครือของ   S&P มีทั้งหมด 85 สาขา (รวมร้าน Patara, Patio, Vanilla, Bluecup และมังกรทอง)  และ ร้านเบเกอรี่ทั้งหมด 148 สาขา  ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ

3.2 ร้านอาหารในต่างประเทศ – ปัจจุบันมี 18 สาขา ใน 5 ประเทศ ภายใต้ชื่อ  Patara, Siam Kitchen, Thai และ Patio

3.3 บริการจัดส่งถึงบ้านและจัดเลี้ยงนอกสถานที่  ให้บริการรับสั่งอาหารผ่านเลขหมายโทรศัพท์ใหม่ 1344   เพื่อให้จัดส่งอาหารถึงบ้าน หรือรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

3.4 ซูเปอร์มาร์เก็ต คอนวีเนียนสโตร์และร้านค้าปลีก – บริษัทฯ ได้มีการกระจายสินค้าคุกกี้ Delio อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ขนมไหว้พระจันทร์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้ชื่อ S&P ไปตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำและ คอนวีเนียนสโตร์ทั่วประเทศ เพื่อบริการผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง และทำให้สินค้าของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักมากขึ้น

3.5 การส่งออก – บริษัทฯ ได้ขยายตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง และขนมไหว้พระจันทร์ ไปจำหน่าย ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรป โดยผ่านตัวแทนจัดจำหน่ายในประเทศนั้นๆ และได้กำหนด เป้าหมายที่จะเพิ่มความสำคัญของตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น โดยได้ปรับปรุงและขยายส่วนการผลิตให้เป็นไป ตามมาตรฐานสากลเพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว


4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการตลาด

ปี 2548 บริษัทฯ ได้จัดทำแผนโฆษณา ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาด เพื่อสร้างความผูกพัน
ความสุขใจให้กับผู้บริโภค และมุ่งตอกย้ำถึงความเป็นหนึ่งทางด้านผลิตภัณฑ์ และบริการอย่างต่อเนื่อง

ด้านการโฆษณา บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญ Happy Cake ผ่านสื่อโฆษณา Mupi Ad.และ TVC ตลอดจน จัดทำโฆษณาบริการ Delivery อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แคมเปญความหลากหลายของเมนูที่ลูกค้าสามารถเลือกสรรได้

ด้านการประชาสัมพันธ์ และลูกค้าสัมพันธ์ บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้าง Brand Loyalty โดยการจัดกิจกรรมให้เด็กๆ และกลุ่มสมาชิกอย่างต่อเนื่อง เช่น การสอนแต่งหน้าเค้กให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 จำนวน 30 โรงเรียนในกรุงเทพฯ เพื่อให้เด็กๆ ได้รับความสนุกสนานและใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ อย่างเต็มที่  และจัดกิจกรรม “Cooking is Fun”  Day Camp  ให้สมาชิก S&P Jak-ka-Jee Club และผู้ปกครอง เพื่อให้รู้จักการอยู่ร่วมกัน ในปี 2548  บริษัทฯ ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าเพื่อประชาสัมพันธ์บริษัทฯ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้นทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด  อาทิ   งาน  “Coffee  &  Bakery Fair  2005 ”  ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเค้กที่นำไปร่วมแสดงในงานได้รับการบันทึกใน  “Ripley’s Believe It or Not!”  ว่า เป็นเค้กกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

  นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้จัดงานเปิดตัวเค้กและบรรจุภัณฑ์สำหรับเทศกาลปีใหม่ในรูปแบบ       แฟชั่นโชว์ในรายการ  “Happiness is a piece of CAKE” บริษัทฯ  ยังได้นำเค้กไปมอบให้แก่มูลนิธิต่างๆ รวม  42 แห่ง ตามเจตนารมณ์ของลูกค้าในโครงการ  “S&P  2005  Wishes .... Cake  A Wish Make A Wish”  เพื่อตอบแทนสังคมและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัทฯ

ด้านการส่งเสริมการตลาด บริษัทฯยังคงใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดด้วยแคมเปญวันพุธ ลดเบเกอรี่ 20 % และแคมเปญ 4 ฟรีอีก 1 สำหรับเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลไหว้พระจันทร์ สำหรับปี 2548  บริษัทฯ ยังได้จัดแคมเปญใหญ่อีก 1 แคมเปญ คือ S&P Happy Season ลุ้นโชคทอง โดยชิงโชคทองคำหนักรวม 180 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

การจัดหาผลิตภัณฑ์ของบริษัทและบริษัทในเครือ

บริษัทยึดถือนโยบายคุณภาพอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่สะอาดและปลอดภัยต่อผู้บริโภค เริ่มตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบซึ่งแผนกจัดซื้อส่วนกลางเป็นผู้จัดหา และควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบก่อนที่จะ จัดส่งไปตามสาขาต่างๆ ยกเว้นของสดบางอย่างที่ผู้ขายจะส่งตรงไปยังสาขาเพื่อรักษาความสดใหม่ นอกจากนี้ แผนกจัดซื้อส่วนกลางยังเป็นผู้วางแผนจัดซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า มีการใช้ E-Auction สำหรับวัตถุดิบบางรายการ และร่วมมือกับผู้ขายในการพัฒนาวัตถุดิบให้ได้คุณภาพอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโรงงานผลิตสินค้า เค้ก เบเกอรี่ ขนมปัง และขนมไหว้พระจันทร์ อยู่ 2 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร คือที่ถนนสุขุมวิทซอย  62 และที่ถนนบางนา – ตราด กม. 23.5 กับอีก 1 แห่งอยู่ที่จังหวัด เชียงใหม่ โรงงานทั้ง 3 แห่งมีกำลังการผลิตโดยรวมประมาณ   8,440   ตันต่อปี  และใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 73 ของกำลังการผลิตทั้งหมด วัตถุดิบสำคัญ เช่น แป้ง น้ำตาล นม เนย ไข่ เป็นวัตถุดิบที่จัดหาได้ง่ายภายในประเทศ จึงไม่ประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลน บริษัทฯ ใช้วิธีจัดซื้อจากผู้จัดจำหน่ายทั่วไป เนื่องจากสถานการณ์ไข้หวัดนก ในประเทศไทย บริษัทฯ จึงเน้นการจัดหาไข่ไก่สดจากฟาร์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์เท่านั้น และ กำหนดให้มีการตรวจเยี่ยมเพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามมาตรฐานสุขลักษณะที่ดีหรือไม่ ในส่วนของวัตถุดิบประเภท เนื้อสุกร บริษัทฯ จัดซื้อจากแหล่งผลิตเนื้อสุกรปลอดสารเร่งเนื้อแดงจากซึ่งได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง เนื้อสัตว์แปรรูป และอื่น ๆ

บริษัทฯ มีโรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์ไส้กรอก และเส้นพาสต้าอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรม ลาดกระบัง โดยจัดพื้นที่บางส่วนให้เป็นครัวกลางเพื่อเตรียมอาหารพร้อมปรุงให้ร้านอาหารสาขาทั้งหมด โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตโดยรวมประมาณ 10,350 ตันต่อปี และใช้กำลังผลิตอยู่ที่ร้อยละ 42.97 ของกำลังการผลิตทั้งหมด  วัตถุดิบที่สำคัญ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว แป้ง และน้ำตาล เป็นวัตถุดิบที่จัดหาได้ง่ายในประเทศ จึงไม่ประสบกับปัญหาเรื่องการขาดแคลนวัตถุดิบ ยกเว้นวัตถุดิบบางอย่าง เช่น ไส้แกะสำหรับทำไส้กรอกซึ่งต้องนำเข้า จากต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนเช่นกัน

ภาวะอุตสาหกรรมและการแข่งขัน

1. ธุรกิจร้านอาหารและเบเกอรี่

จากสภาพสังคมปัจจุบันที่คนไทยนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหาร มีการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ก็มีการแข่งขันที่รุนแรงเช่นกัน เพราะมีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดตลอด เวลา  บริษัทฯ จึงต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ และเตรียมพร้อมสำหรับการขยายตัว ได้ทุกเมื่อ   นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปัจจุบันหันมาให้ความใส่ใจต่อสุขภาพ และคุณค่าของอาหาร โดยปรับเปลี่ยนเมนูอาหารเป็นแนวเพื่อสุขภาพมากขึ้น

ในส่วนของธุรกิจเบเกอรี่นั้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งจากผู้ประกอบการ ในประเทศและต่างประเทศ แต่ก็จัดว่าเป็นตลาดที่มีมูลค่าโดยรวมอยู่ในเกณฑ์น่าสนใจ ดังนั้น นอกเหนือจาก การให้ความสำคัญด้านความสะอาดและรสชาติที่ดีตามมาตรฐานของ S&P แล้ว บริษัทฯ ยังเน้นการพัฒนา บรรจุภัณฑ์ที่ให้ทั้งความสวยงาม เก็บถนอมอาหารได้ดี และสะดวกแก่การบริโภค เป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้า เบเกอรี่ของบริษัทฯ และสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าอีกด้วย

2. ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง  

  ความนิยมบริโภคอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งมีมากขึ้น เพราะสอดคล้องกับวิถีชีวิตอันรีบเร่งของคนเมือง ประกอบ กับอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งในปัจจุบันมีการพัฒนารสชาด ความสะอาดปลอดภัย และมีประเภทให้เลือกมากขึ้น จึงดึงดูดให้คนหันมานิยมมากขึ้นตามไปด้วย  ปัจจัยอีกข้อหนึ่งที่เอื้อต่อการเติบโตของตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ก็คือ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในครัวเรือน เช่น ตู้เย็น และเตาไมโครเวฟ ได้กลายเป็นเครื่องใช้จำเป็น ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายกว่าแต่ก่อนมาก จึงช่วยให้การบริโภคอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งไม่เป็นเรื่องยุ่งยากอีกต่อไป

จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจึงส่งให้อัตราการขยายตัวของธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากการขยายตัวของตลาดในประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังเล็งเห็นลู่ทางการส่งออกอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ไปยังตลาดต่างประเทศอีกด้วย   โดยในปี พ.ศ. 2548 บริษัทฯ ได้เพิ่มกำลังการผลิตสินค้าอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ตลอดจนศึกษาถึงความชอบของผู้บริโภคชาวต่างชาติ และทุ่มเทพัฒนาสินค้า เพื่อผลักดันให้สินค้าอาหารสำเร็จรูป แช่แข็งของบริษัทฯ เป็นที่เชื่อถือของผู้บริโภคในต่างประเทศ เหมือนเช่นที่ทำสำเร็จมาแล้วในประเทศไทย

----------------------------------------