เข้าชมรายละเอียด THE INDIAN TEA

เข้าชมรายละเอียด THE INDIAN TEA
แฟรนไชส์กาแฟสดและกาแฟชงสำเร็จ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย ราคาเริ่มต้น 6,900 - 399,000 เข้าชมรายละเอียด แฟรนไชส์ THE INDIAN TEA คลิ๊กที่รูปภาพด้านบน ติดต่อคุณมาโนช โทร.084-682-5999 , 092-369-3951 LINE ID : @THEINDIANTEA / หรือเซฟเบอร์ 084-682-5999

ค้นหาทำเลเปิดร้านกาแฟ แสดงผลการค้นหาชัดเจน ตรงประเด็น จากกลุ่มเว็บที่เรานิยมใช้เป็นประจำ

Loading

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

กาแฟ การปลูกกาแฟ การผลิตกาแฟที่มีคุณภาพ คือ มีสี กลิ่น รสชาติ ตรงตามพันธุ์


กาแฟ

1. สถานการณ์
ปี 2547 ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกาแฟรวม 439,529 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้ว 418,735 ไร่ ผลผลิตรวม 61,765 ตัน ประมาณร้อยละ 97 ปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้า โดยมีแหล่งผลิตสำคัญทางภาคใต้ ส่วนอีกร้อยละ 3 ปลูกพันธุ์อราบิก้า โดยมีแหล่งผลิตสำคัญอยู่ทางภาคเหนือ ด้านการผลิตในภาพรวมมีแนวโน้มลดลง แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในภาคเหนือ ผลผลิตใช้ทั้งเพื่อการบริโภคในประเทศและส่งออกต่างประเทศ 


ไร่กาแฟ


ส่วนใหญ่ส่งออกผลผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ในรูปเมล็ดกาแฟและกาแฟสำเร็จรูป โดยมีมูลค่าการส่งออก(มค.-กย.2547) รวม 717.9 ล้านบาท ปัญหาการผลิตและการตลาดกาแฟของไทย นอกเหนือจากปัญหาราคากาแฟที่ตกต่ำในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งขัน ได้แก่ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ยังมีปัญหาผลผลิตกาแฟบางส่วนมีคุณภาพต่ำ เนื่องจากมีการเก็บเมล็ดสุกและไม่สุกปะปนกัน การนำผลกาแฟไปตากบนลานดิน เป็นผลให้เมล็ดกาแฟดูดซับเอากลิ่นดินเข้าไปในเมล็ด 

รวมทั้งปัญหาเมล็ดกาแฟไม่ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง มีความชื้นสูง เกิดเชื้อราและมีสารออคราทอกซิน ชนิดเอ ดังนั้น จึงควรมีการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติก่อนและหลังการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้องให้แก่เกษตรกร เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรให้สามารถแข่งขันได้ในระบบการค้าเสรี

2. ประเด็นเทคโนโลยีที่ควรถ่ายทอด  

ประเด็น เรื่อง
1. การผลิตกาแฟที่มีคุณภาพ คือ มีสี กลิ่น รสชาติ ตรงตามพันธุ์ มีอายุเก็บเกี่ยวเหมาะสม มีความชื้นไม่เกิน 13% มีข้อบกพร่องไม่เกินข้อกำหนดของคู่ค้า (เมล็ดที่กะเทาะเปลือกออกไม่หมด เมล็ดดำ เมล็ดมอด เมล็ดแตก เมล็ดเสีย รวมทั้งสิ่งเจือปนอื่นๆ)
1.1      การเลือกต้นพันธุ์ เน้นต้นพันธุ์ที่ต้านทานโรค ให้ผลผลิตสูงสม่ำเสมอ น้ำหนักเมล็ดกาแฟแห้งสูง
1.2      การใส่ปุ๋ย เน้นการใส่ปุ๋ยอย่างถูกต้อง ใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ การนำวัสดุเหลือใช้มาทำเป็นปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิต
1.3       การตัดแต่งกิ่ง
      – การตัดแต่งหลังการเก็บผลผลิตในแต่ละปี
      - การทำสาวเมื่อกาแฟเริ่มให้ผลผลิตลดลง
1.4      การเก็บเกี่ยว เน้นการเก็บเกี่ยวเมื่อผลมีสีแดง สีเหลือง หรือสีส้มแดง (แล้วแต่พันธุ์)




ประเด็น เรื่อง


1.5       การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
- การคัดผลกาแฟโดยการนำไปเทในภาชนะ
   บรรจุน้ำ แล้วคัดผลกาแฟที่ลอยน้ำทิ้ง
- การผลิตสารกาแฟโดยวิธีแห้ง เน้นการ
         ตากบนลานซีเมนต์ ไม่ตากบนลานดิน
         การตากผลจนแห้งมีความชื้นไม่เกิน 13%
       - การผลิตสารกาแฟโดยวิธีเปียก เน้นการ
         ปอกเปลือกนอกภายใน 24 ชั่วโมง หลัง 
         การเก็บเกี่ยว
       - การเก็บรักษาผลผลิต เน้นภาชนะและโรง
         เก็บที่สะอาด มีอากาศถ่ายเท
2. การผลิตกาแฟที่ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง
2.1 การป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างผสมผสาน เน้นการใช้สารเคมีให้น้อยที่สุด
2.2 การใช้สารเคมีอย่างถูกต้องปลอดภัย เน้นการใช้สารเคมีที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตาม          กฏหมาย  ใช้ในชนิด อัตรา ระยะเวลา รวมทั้งหยุดพ่นก่อนเก็บเกี่ยวตามคำแนะนำ จดบันทึกการใช้สารเคมีทุกครั้ง
2.3 การป้องกันการเกิดสารออคราทอกซิน ชนิดเอ เน้นไม่ให้เกิดความชื้นในผลผลิต โดยเฉพาะช่วงเก็บรักษาผลผลิต
3. ผู้ประสานงาน
                1 นางพิสมัย พึ่งวิกรัย   นักวิชาการเกษตร 6 .
                2 นายกิตติ สระแก้ว      นักวิชาการเกษตร 4
                3. นางสาวจารุวรรณ           พิพัฒน์พุทธพันธ์            นักวิชาการเกษตร
                โทรศัพท์ 0-2940-6116    โทรสาร 0-2579-5815     E-Mail : Agriman42@doae.go.th
4. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
                4.1 ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่  อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โทร.0-5322-9092-3
                4.2 ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร อ.สวี จ.ชุมพร โทร.0-7755-6023-5 ต่อ 214


ที่มา:
fs.doae.go.th/knowledge/5%20tree/coffee.doc

---------------------------------------

Cafe Britt - Premium Gourmet Coffee