กาแฟไม่ได้ช่วยรักษาโรคสมาธิสั้น

กาแฟไม่ได้ช่วยรักษาโรคสมาธิสั้น โปรดระวังการรักษาโรคสมาธิสั้นโดยใช้กาแฟ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่อันตราย พอดีได้เจอข่าวทางอินเตอร์เน็ตตามรายละเอียดด้านล่างเลยเอามาแปลเล่าสู่กันครับ ( โดย ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย )




เป็นไปได้หรือที่กาแฟหนึ่งถึงสองถ้วย ช่วยรักษาโรคสมาธิสั้น?


โรวัน ฮาสเคล ดื่มกาแฟวันละสองแก้วช่วยให้มีความสนใจในชั้นเรียน
เช้าวันนี้ คุณแม่ซึ่งเป็นบล็อกเจอร์ เปิดเผยต่อ สำนักข่าว เอ  บี ซี นิวส์ ว่า ลูกน้อยวัย 7 ขวบของเธอ เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการดื่มกาแฟ คริสตี้ ฮาสเคล ผู้เขียนบล็อกเพื่อ Cafe Mom's"The Stir"  ให้ลูกของเธอ ที่ชื่อว่า โรวัน ดื่ม คาเฟอีน สองครั้งต่อหนึ่งวันสำหรับการรักษาโรคสมาธิสั้น

คุณแม่ท่านนี้คิดอะไร ? ลูกชายของเธอคงกระโดดโลดเต้นเอาตัวเองกระแทกกับกำแพงที่โรงเรียน แต่ตรงข้ามกัน  โรวันกลับเงียบและมุ่งมั่นในชั้นเรียน ที่จริง ฮาลเคล อ้างว่าเธอให้กาแฟเพื่อที่จะทำให้ลูกชายของเธอมีอารมณ์ที่สงบนิ่งลง เธอบอกว่า กาแฟ ช่วยรักษาโรคสมาธิสั้นของ โรวัน

“โรวัน ไม่แสดงพฤติกรรมตอบสนองที่มากเกินไป เมื่อเราสั่งให้เขาหยิบตัวต่อเลโก้ แทนที่จะเป็น การกรีดร้อง และโยนตัวเองลงกับพื้น” ฮาลเคลบอกกับ เอ บี ซี นิวส์ “และเมื่อเราขอให้เขานั่งลงและทำการบ้าน เขาก็ทำการบ้านอย่างจริงจัง”

เรื่องราวของ ฮาลเคล ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการมีสมาธิ ท่ามกลางเด็กๆที่เป็นโรคสมาธิสั้น และ ทางเลือกในการรักษาแบบนี้มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่
มีเด็กมากขึ้นๆ ในทุกวันนี้ที่ทรมานจากความรู้สึกกระวนกระวายใจ เพราะโรคสมาธิสั้น มันเป็นสภาพทางจิตเวชที่กำหนดทั่วไปในเด็ก อาการทั่วไปรวมถึงการไม่สนใจ , หุนหันพลันแล่น และ อาการไฮเปอร์ การนั่งอยู่ในห้องเรียนและการตั้งใจฟังคุณครู เป็นสิ่งที่เด็กๆหลายคนทำ  แต่เกือบเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น

สมาธิสั้นพบมากในเด็กผู้ชาย และพฤติกรรมเด่นคือการไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ผลการศึกษาล่าสุดจากศูนย์สหรัฐเพื่อการป้องกันและควบคุมโรค พบว่าเกือบหนึ่งในสิบของเด็กอเมริกัน วินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคสมาธิสั้น

ผู้เชี่ยวชาญบางท่านรู้สึกว่าสมาธิสั้นเป็นความร้อนรนตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อเด็กเริ่มเข้าโรงเรียนและถูกคาดหวังให้นั่งเฉยๆบนพรมและฟัง หรือกล่าวว่าเป็นผลจากการเลี้ยงดูที่ไม่ดี บางท่านรู้สึกว่าเรากำลังวินิจฉัยอาการที่มากเกินความเป็นจริงและให้คำนิยามที่เกินไป แต่แนวคิดนี้เริ่มน้อยลงเมื่องานวิจัยใหม่ๆนำเสนออย่างต่อเนื่องว่าเป็นอาการผิดปกติจากสมองจริง

การรักษาที่พบมากสำหรับโรคสมาธิสั้น คือ พฤติกรรมบำบัดร่วมกับยาเช่น ริทาริน (Ritarin) และเด็กอีกจำนวน 2.5 ล้านคนใช้ยากระตุ้นแต่ผู้ปกครองกลัวถึงผลข้างเคียงจึงหันมาใช้การรักษาทางเลือก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาและอาหารที่ปราศจากน้ำตาล ไปจนถึงการนวดและโยคะ จำนวนสองในสามของเด็กที่วินิจฉัยว่าสมาธิสั้นใช้การรักษาทางเลือกใดทางเลือกหนึ่งของทางเลือกดังกล่าว อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์ นิวยอร์กไทม์

การรักษาทางเลือกมีการศึกษาวิจัยที่น้อย ไทม์ รายงาน St. John's wort worked no better than a placebo to counter A.D.H.D. แต่หลายส่วนของการศึกษา กลุ่มที่ศึกษาเล็ก: เพียงแค่ศึกษาเด็ก 54 คน โดยปกติ มันมีการศึกษาวิจัยอย่างจริงจังน้อยมากที่ถูกพิสูจน์ ว่าการรักษาทางเลือกได้ผล หลักๆพวกมันจะอยู่ในเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย และจะพบเห็นได้ในสื่อออนไลน์ ที่คุณสามารถหาเจอหน้าสื่อที่มีเรื่องราวของครอบครัวที่รักษาเด็กๆของพวกเขาด้วยสมุนไพรเสริมอาหารและอาหารพิเศษ

เมื่อฮาสเคลพบว่าลูกชายของเธอมีอาการสมาธิสั้น เธอค้นหาข้อมูลโรคสมาธิสั้นและการรักษาจากอินเตอร์เน็ตและพบวิธีการรักษาโดยใช้กาแฟ เธอจึงลองและประหลาดใจกับผลของมัน
เว็บไซต์ออนไลน์ ระบุว่า คาเฟอีนในกาแฟ ทำงานเหมือน ตัวยากระตุ้น การเพิ่มระดับ โดพามาย (dopamine) และกระตุ้นสมองที่มีสมาธิสั้น

แต่ผู้เชี่ยวชาญของ เอ บี ซี ชี้ให้เห็นอย่างรวดเร็วว่า มันไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ ว่าเครื่องดื่มประเภท กาแฟ สามารถรักษาโรคสมาธิสั้น ที่จริงแล้วทางวิทยาศาสตร์เตือน ว่า คาเฟอีน สามารถมีอันตรายจากผลข้างเคียง จากความดันเลือดที่สูง ไปจนถึงอาการปวดหัวในเด็ก
และ ดร.ริชาร์ด เบสเซอ บรรณาธิการอวุโสทางการแพทย์ และสุขภาพ ของ เอ บี ซี เล่าว่า เด็กจำนวนมากต้องประสบปัญหา จากการรักษาโรคสมาธิสั้น ที่ถูกคิดค้นขึ้นเองจากครอบครัวต่างๆ ที่ครอบครัวตนไปพบจากทางอินเตอร์เน็ต แล้วนำมารักษา

แล้วคุณล่ะมีการใช้การรักษาทางเลือกในบุตรของคุณมั๊ย?

แปลโดย ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย จาก Amy Graff (Email, Twitter, Facebook) | September 07 2011 at 03:03 PM Listed Under: Health: kids  Read more: Can a cup of coffee cure a kid’s ADHD? 

-->