เข้าชมรายละเอียด THE INDIAN TEA

เข้าชมรายละเอียด THE INDIAN TEA
แฟรนไชส์กาแฟสดและกาแฟชงสำเร็จ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย ราคาเริ่มต้น 6,900 - 399,000 เข้าชมรายละเอียด แฟรนไชส์ THE INDIAN TEA คลิ๊กที่รูปภาพด้านบน ติดต่อคุณมาโนช โทร.084-682-5999 , 092-369-3951 LINE ID : @THEINDIANTEA / หรือเซฟเบอร์ 084-682-5999

ค้นหาทำเลเปิดร้านกาแฟ แสดงผลการค้นหาชัดเจน ตรงประเด็น จากกลุ่มเว็บที่เรานิยมใช้เป็นประจำ

Loading

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

กาแฟ ตามรอยกาแฟ สวนยาหลวง โดย เนรัญชรา

ตามรอยกาแฟ…สวนยาหลวง โดย เนรัญชรา เรื่องราวความประทับใจที่จะนำมาบอกเล่าแก่ผู้อ่านคราวนี้ มีจุดเริ่มต้นจากช่วงเวลายามเช้าของวันหนึ่งในเดือนธันวาคมที่สายลมหนาวพัดผ่านมาเยือนอีกครา บรรยากาศในฤดูหนาวท่ามกลางแสงอาทิตย์รับอรุณยามเช้าเช่นนี้ด้วยความที่เป็นคนพิสมัยกับรสชาติของคาเฟอีนอันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต  จึงอยากเล่าเรื่องราวของกาแฟจากขุนเขาแห่งล้านนาตะวันออกให้ทุกท่านได้ร่วมรับรู้และชื่นชม


  เมื่อต้นเดือนธันวาที่ผ่านมา  ได้มีโอกาสไปเที่ยวงานกาแฟที่ทางจังหวัดจัดขึ้น  พอเดินเข้าทางประตูทางเข้าด้านหน้าก็เห็นร้านกาแฟร้านหนึ่ง  ด้วยความที่หลงไหลกลิ่นกาแฟ  ก็อดที่จะเข้าไปแวะชมร้านไม่ได้  ด้านหน้าร้านเป็นเคาเตอร์ขายกาแฟเล็กๆ คนขายหน้าตาจิ้มลิ้ม   น้ำเสียงไพเราะชวนฟัง  ด้านหลังเคาเตอร์เป็นชุดเก้าอี้เล็กๆ   สำหรับนั่งจิบกาแฟที่ร้าน  ฉากหลังร้านเป็นแผ่นไวนิลพิมพ์ภาพสัญลักษณ์ของร้านกาแฟ  เป็นภาพหญิงชาวเขาแต่งกายด้วยชุดประจำเผ่ากำลังเก็บผลกาแฟ  ด้านบนมีอักษรรายเรียงกัน  อ่านได้ว่า “กาแฟสวนยาหลวง”  ขณะยืนรอกาแฟอยู่นั้นได้ยินคำถามมากกว่าหนึ่งครั้ง  “สวนยาหลวงอยู่ที่ไหน”  ทุกครั้งที่ต้องตอบใบหน้าจิ้มลิ้มเปื้อนยิ้มเสมอ

วันนี้  จะพาไปรู้จักกับกาแฟสวนยาหลวง  แหล่งปลูกกาแฟของเมืองน่าน  ล้านนาตะวันออก  จากไร่ฝิ่นสู่ไร่กาแฟ   ย้อนหลังไปประมาณ 145 ปี  บรรพบุรุษของชาวบ้านสันเจริญนั้นมาจากประเทศจีน  เดินทางผ่านประเทศลาว  มาตามสันดอยวาว  ผ่านดอยภูแว   ตำบลและ  อำเภอและหรืออำเภอทุ่งช้างในปัจจุบัน  ผ่านตำบลริม  อำเภอท่าวังผา  ผ่านขุนน้ำกาด  ขุนสะละ  ขุนน้ำพัน บางกลุ่มก็ตั้งรากฐานอยู่ขุนสะละและขุนน้ำพัน  แต่บางกลุ่มได้เดินทางตั้งรากฐานมาอยู่ที่บริเวณที่เรียกกันว่า“สวนยาหลวง”  เมื่อก่อนบริเวณสวนยาหลวงมีชื่อว่า “หมู่บ้านน้ำลัก”  ซึ่งมีตำนานเล่ากันว่า บริเวณที่น้ำออกรูนั้น รูของน้ำนั้นจะมีถ้ำขนาดใหญ่ข้างในจะมีฝูงปลาจำนวนมาก ถ้ามีคนเข้าไปแล้วจะหายตัวไปไม่กลับออกมาอีกเลย  จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน  แล้วภายหลังดินได้ทรุดปิดปากรูจนถึงปัจจุบันด้วยบริเวณสวนยาหลวง  เป็นดอยสูง มีสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นเหมาะกับการปลูกฝิ่น  ชาวบ้านจึงรวมตัวกันปลูกฝิ่น     ฝิ่นจึงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของหมู่บ้าน  และถือเป็นพื้นที่ที่ปลูกฝิ่นมากที่สุดในประเทศไทยประมาณ 20,000  ไร่  

คำว่า “สวนยาหลวง” ไม่มีใครทราบว่าใครเป็นคนตั้งชื่อนี้  เป็นคำที่เรียกกันมาตั้งนมนานแล้ว ตั้งแต่เริ่ม ปลูกฝิ่นและบริเวณนี้ปลูกฝิ่นมากที่สุดในประเทศไทยและก็เรียกกันจนติดปากมาจนถึงปัจจุบันคำว่า“สวนยาหลวง” ภาษาเมี่ยนนั้นออกเสียงว่า “ตม-อิน-เต่” หรือ “ตม-อิน-เด่”  (“ตม”หมายถึง สวน  “อิน”หมายถึง ฝิ่น  “เต่ หรือ เด่”หมายถึง  ใหญ่)
ชาวบ้านสันเจริญเริ่มปลูกกาแฟได้ก็เพราะมีแนวคิดจากผู้หญิงในหมู่บ้านคนหนึ่งซึ่งได้ออกไปแต่งงานกับผู้ชายคนอำเภอแม่สายแล้วได้ไปเห็นการปลูกกาแฟของทางอำเภอแม่สายมีรายได้ดี พอกลับมาเที่ยวที่บ้านก็ได้มาบอกเล่าให้กับชาวบ้านสันเจริญ  และชาวบ้านกลุ่มหนึ่งก็ได้ให้ความสนใจ จึงได้เริ่มปลูก จนสามารถเปลี่ยนพื้นที่ปลูกฝิ่นและพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟบนภูเขาอันกว้างใหญ่ไพศาลนับร้อยพันไร่ในปัจจุบัน

การเดินทางไปไร่กาแฟ  สวนยาหลวงนั้น  ผู้เขียนซึ่งเป็นคนน่านเอง  ยังมีโอกาสไปเพียงแค่ครั้งเดียว  ซึ่งการไปครั้งนั้นก็ไปด้วยความไม่พร้อมด้วยประการทั้งปวง    เสียดายที่ไม่ได้นำกล้องถ่ายรูปไปด้วย  เลยทำได้แค่บันทึกภาพด้วยโทรศัพท์เท่านั้น    ไปสวนยาหลวงคราวนั้นออกเดินทางจากบ้านซึ่งอยู่ในอำเภอเมืองประมาณสิบโมงเช้า  อากาศเย็นสบายขับรถมาทางอำเภอท่าวังผา  ซึ่งชาวบ้านจะปลูกไร่ข้าวโพดกันมาก  พอถึงกิโลเมตรที่ 20 ขวามือจะเห็น “หอศิลป์ริมน่าน” เป็นหอศิลป์ที่ก่อตั้งขึ้นโดยศิลปินผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งของประเทศไทย คุณวินัย ปราบริปู  ภายในหอศิลป์ก็จะมีส่วนที่จัดแสดงภาพ  เป็นอาคารสองชั้น  ใช้จัดแสดงผลงานทั้งสองชั้น  ส่วนด้านหลังเป็นร้านกาแฟซึ่งสามารถชงกาแฟได้ตามใจชอบ  ร้านขายของที่ระลึกที่เป็นเอกลักษณ์ของคนเมืองน่าน  เสน่ห์อย่างหนึ่งของหอศิลป์ที่มักเชื้อเชิญให้ไปบ่อยๆ คือ  ความสงบ  งดงาม  และไออุ่นของศิลปะ

บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยศิลปะนำมาซึ่งสมาธิ  โจทย์ชีวิตยากๆบางข้อผู้เขียนหาคำตอบได้จากที่นี่เสมอ  เราใช้เวลาอยู่ที่หอศิลป์ไม่นานมากนักเพราะระยะทางยังอีกยาวไกล  เดินทางต่อถึงตลาดท่าวังผา  ขับตรงไป  พอถึงที่ว่าการอำเภอท่าวังผา   เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.สองแคว ถึงปากทางบ้านน้ำโมง ปางสา ระยะทาง 15 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 19 กม. ทิวทัศน์ระหว่างทาง  ทางขวาจะเป็นภูเขา  ทางซ้ายเป็นเหว  แม้ว่าตะวันจะตรงหัวพอดี  แต่อุณหภูมิขณะนั้นต่ำกว่าตอนสิบโมงเช้าที่เริ่มเดินทางแน่นอน  วิวทิวทัศน์สองข้างทางสวยงามจนสามารถช่วยให้ลืมเส้นทางที่น่าหวาดเสียวไปได้เหมือนกัน  สองข้างทางเป็นแปลงข้าวไร่สุดลูกหูลูกตา  หอมกลิ่นข้าวไร่ที่พัดเข้ามาในรถ  มีความสุขจนต้องยิ้มให้กับตัวเอง  แต่ถ้ามองไปยังเขาลูกอื่นก็จะเห็นภาพที่น่าเศร้าใจยิ่ง  ผืนป่าสีเขียวกลายเป็นสีน้ำตาลสลับกับตอไม้สีดำเกลื่อนตา  พยายามคิดว่าคนที่ทำแบบนั้นอาจจะไม่รู้ถึงผลที่จะตามมา

 หรือมีเหตุจำเป็นบางอย่างที่สำคัญมากๆที่จะต้องทำแบบนั้น   พอขับรถมาถึงหมู่บ้านจะเจอหอนาฬิกาขับรถตรงไปเรื่อยๆ จะพบสะพานขับรถข้ามสำพานตรงไปประมาณ 500 ม.จะพบศูนย์วัฒนธรรมของหมู่บ้านสันเจริญ  เราเดินชมศูนย์วัฒนธรรมเป็นอันดับแรก  ซึ่งเป็นที่จัดแสดงอธิบายความเป็นมาของชาวเมี่ยน  เมล็ดกาแฟจะผ่านการตาก  บด  และคั่วที่นี่ ณ ที่แห่งนี้สามารถลิ้มรสกาแฟสดหอมกรุ่น  รสชาดกลมกล่อม  ขมกำลังพอดี แม้ว่าไม่นิยมจิบกาแฟร้อนตอนกลางวัน  แต่ความเย็นของอากาศยามนั้นก็สามารถหลอกตัวเองได้ว่า  นี่เราจิบกาแฟยามเช้าต่างหาก  รอยยิ้มของคนเมี่ยน  เสียงลมจากขุนเขา  ความสงบเงียบที่เพรียกหา  และกลิ่นกาแฟที่หอมกรุ่น  เพียงจิบแรกความสุขก็หลั่งไหลเข้ามาเต็มใจ  เมื่อกาแฟหมดแก้วสองเท้าก็ถูกเร่งเร้าให้ออกเดินทางไปสู่ “สวนยาหลวง”
  
 การเดินทางไปสวนยาหลวงนั้นถนนคอนกรีตสิ้นสุดลงใน 2 กิโลเมตรแรก  จากนั้นไปอีก 5 กิโลเมตรจะต้องใช้ถนนดิน ซึ่งกว้างพอให้รถสวนกันได้  ตลอดสองข้างทางมีต้นกาแฟทักทายอยู่ไม่ขาดสาย  เมื่อถึงสวนยาหลวงก็จะพบไร่กาแฟพันธุ์อะราบิก้ากว้างสุดลูกหูลูกตา  มีที่พักที่ชาวบ้านใช้พักยามเหนื่อยล้าจากการทำไร่  ผลกาแฟสีสวยสดเรียงเม็ดอัดกันแน่นบนกิ่ง  รอให้ฤดูเก็บเกี่ยวมาถึงซึ่งจะอยู่ในช่วง พ.ย.-ก.พ.  ไวเท่าสมองคิดผลกาแฟสดก็เข้าไปอยู่ในปากเสียแล้ว  ลิ้นสัมผัสความฝาดและเฝื่อนสุดบรรยายคายทิ้งแทบไม่ทัน สวนยาหลวงไม่ได้มีเพียงกาแฟสด  รสชาดดีเท่านั้น  กาแฟห่อหมูก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ไม่ควรพลาด  ใบกาแฟแก่อ่อนกำลังดีนำมาห่อหมูบดที่หมักด้วยเครื่องเทศหลากชนิด  แล้งลงทอดในน้ำมันร้อนๆ ส่งกลิ่นหอม  เร่งให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานก่อนเวลา    ชิ้นแรกที่ลิ้มลองทำให้นึกถึงการกินหมูอบมากด้วยชนิดของเครื่องเทศพร้อมๆกับการละเลียดกาแฟร้อนกรุ่นไอ  รู้สึกตัวอีกครั้งภาชนะตรงหน้าก็ว่างเปล่า    ขอคารวะผู้รังสรรค์อาหารจานนี้ด้วยใจจริง

เจ้าบ้านบอกกับพวกเราว่าหากมาเที่ยวแล้วต้องการที่พักสามารถติดต่อผู้ใหญ่บ้านเพื่อเข้าพักได้  ถ้าเดินทางจากสวนยาหลวงอีกสองกิโลเมตรเราก็จะถึงยอดภูสันซึ่งเป็นเทือกเขาเดียวกับดอยวาวแต่พาหนะที่พาเราไปคงแรงน้อยเกินกว่าจะขึ้นภูสันได้ไหว  เจ้าบ้านบอกกับเราอีกว่าบอกกับเราว่าหากขึ้นไปบนยอดภูสันสามารถจะมองเห็นสองจังหวัดคือจังหวัดน่านในส่วนของอำเภอท่าวังผา  ปัว  และจังหวัดพะเยาในส่วนของอำเภอปง  เมื่อเดินเท้าไปทางทิศใต้ของสวนยาหลวงประมาณ 3 กิโลเมตรจะพบน้ำตกภูสัน  น้ำตก 12 ชั้น ที่แต่ละชั้นมีความสวยงามต่างกันไป เป็นน้ำตกที่ยังคงความบริสุทธิ์ของธรรมชาติอยู่มาก    หากมาในช่วงฤดูน้ำหลาก น้ำตกจะสวยมาก  เมื่อเห็นพ้องต้องกันว่าการทิ้งน้ำตกภูสันไว้เบื้องหลัง  น่าจะเป็นผลดี  จึงมุ่งหน้าสู่  “น้ำออกรู”  ซึ่งห่างจากสวนยาหลวงประมาณ  8 กม. พวกเราขับรถมาตั้งหลักที่หอนาฬิกาแล้วเลี้ยวขวาไปอีก 1 กม.   เสียงน้ำไหลไม่ต่างจากน้ำตกใกล้เข้ามา

ป่าบริเวณนั้นเป็นป่าดิบชื้นมีต้นเฟิร์นใหญ่ขึ้นอยู่มาก  แล้วก็ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น  ธารน้ำไหลแรงพุ่งออกมาจากช่องเขา  เมื่อไหลมาปะทะกับโขดหินใหญ่แยกเป็นสองสาย  ทั้งสองสายหล่อเลี้ยงชาวบ้านสันเจริญ  เพื่อให้ได้เห็นภาพเบื้องหน้าได้ถนัดตาจึงก้าวข้ามลำธารเล็กๆไปยังโขดหินที่มีแรงน้ำไหลมาปะทะ  ก้าวแรกที่เท้าสัมผัสน้ำ  ทุกส่วนรับรู้ถึงความเย็นเฉียบ  สองมือวักน้ำขึ้นชิม  รสชาดหวาน  ได้กลิ่นหอมของไอดิน  แม้จะเคยเรียนมาว่าน้ำบริสุทธิ์คือน้ำที่ปราศจาก  สี  กลิ่น  รส  ก็อดใจไม่ได้ที่จะวักน้ำขึ้นดื่มเป็นครั้งที่สอง  พอข้ามลำธารมาถึงยังโขดหิน  ละอองน้ำจากแรงปะทะของธารน้ำกับโขดหินสาดใส่หน้าสดชื่นยิ่งกว่าการได้ฉีดน้ำแร่กระป๋อง  ยืนรับละอองน้ำจนหน้าชุ่มก็มุ่งหน้าสู่บ่อน้ำพุร้อนโป่งกิด้วยความสุขชุ่มใจ

กลิ่นหอมของข้าวไร่ตลอดสองข้างทางส่งเราจนถึงบ่อน้ำพุร้อนโป่งกิ  ยิ่งสาวเท้าเข้าใกล้  จมูกก็รับกลิ่นกำมะถันได้ชัดเจนขึ้น   ไออุ่นโลมเลียผิวหน้าเหมือนอุ่นไอมือแม่ลูบไล้  การเดินทางเริ่มต้นอีกครั้งทว่าทิศทางนั้นย้อนกลับเมื่อตะวันเริ่มคล้อยเส้นทางสายเดิมแต่ประสบการณ์เพิ่มพูน       จะมีสักกี่ครั้งที่เราจะได้สัมผัสดินแดนธรรมชาติบริสุทธิ์ปราศจากการปรุงแต่งของมนุษย์  หากมีโอกาสคราวหน้าจักไปเยือนอีกคราให้จงได้      ......สวนยาหลวง.......

--------------------------------


Cafe Britt - Premium Gourmet Coffee